ห้องเม่าปีกเหล็ก

พลังการลงทุนข้ามชาติ

โดย missวิมลรัตน์
เผยแพร่ :
71 views

พลังการลงทุนข้ามชาติ: ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกในวันที่ผันผวน

“เม็ดเงินลงทุน” หรือ FDI ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขในรายงานเศรษฐกิจ แต่คือแรงขับเคลื่อนการเติบโตในศตวรรษที่ 21 และเป็นสัญญาณว่าประเทศใดมีความพร้อมรองรับอนาคตผ่านการจ้างงาน เทคโนโลยี และเครือข่ายการค้า

ในปีที่ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และสงครามภาษีเพิ่มสูงขึ้น คำถามสำคัญคือ ทุนข้ามพรมแดนกำลังบอกอะไรกับเรา?

 

 

ภาพรวม FDI ปี 2567: การฟื้นตัวที่ยังเปราะบาง

FDI โลกเพิ่มเพียง 4% จาก 1.45 เป็น 1.51 ล้านล้านดอลลาร์ แต่เมื่อหักกระแสเงินทุนไหลผ่านของยุโรป ตัวเลขจริงลดลงถึง 11% ติดต่อกันเป็นปีที่สอง การลงทุนใหม่จึงยังเดินหน้าแบบ “ชะลอคันเร่ง” มากกว่าจะกลับมาหนุนเศรษฐกิจโลกในทันที

 

ประเทศพัฒนาแล้ว: เผชิญแรงกดดันหนัก

ประเทศพัฒนาแล้วรับ FDI เพียง 626 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 22% และยุโรปได้รับผลกระทบหนักที่สุด 

เยอรมนีลดลงถึง 89% 

สเปนลดลง 35% 

อิตาลี ลดลง 24% 

ฝรั่งเศส ลดลง 20%

ในทางกลับกัน อเมริกาเหนือขยายตัว 23% จากเมกะโปรเจกต์เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสะท้อนชัดว่าทุนโลกกำลังให้รางวัลกับประเทศที่มีนโยบายอุตสาหกรรมชัดเจนและมีเสถียรภาพ

 

ประเทศกำลังพัฒนา: จุดแข็งแห่งความยืดหยุ่น

กลุ่มประเทศกำลังพัฒนารับ FDI กว่า 867 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 58% ของโลก แอฟริกาโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ +75% จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในอียิปต์ 

 

เอเชียยังเป็น “ศูนย์กลางของ FDI โลก” ด้วยสัดส่วน 70% ของกลุ่มกำลังพัฒนา และ 40% ของ FDI โลก แม้ 

จีนลดลง 29% แต่อาเซียนกลับเพิ่มขึ้น 10% ทำสถิติสูงสุดที่ 225 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นการสลับตำแหน่งของห่วงโซ่อุปทานที่ยังดำเนินต่อเนื่อง

 

ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด: ความเหลื่อมล้ำของโอกาสที่ยังไม่หายไป

กลุ่ม LDCs ได้เงินทุนเพียง 37 พันล้านดอลลาร์ หรือแค่ 2% ของ FDI โลก และกระจุกตัวในไม่กี่ประเทศ เช่น แซมเบียหรือเอธิโอเปีย การพึ่งพาโครงการขนาดใหญ่เพียงไม่กี่โครงการจึงยังเป็นความเสี่ยงเชิงโครงสร้างในระยะยาว

 

จุดหมายปลายทางใหม่ของนักลงทุนโลก: การปรับสมดุลชัดเจนขึ้น

สหรัฐฯ ยังคงครองแชมป์ประเทศที่รับ FDI สูงสุดของโลก

สิงคโปร์ไต่อันดับขึ้นแซงจีน

ฮ่องกงขึ้นมาเป็นอันดับสาม

จีน ร่วงลงมาอันดับ 4

ประเทศผู้ส่งออกเงินทุน: ผู้เล่นตัวจริงของระบบทุนโลก

สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีนยังครองตำแหน่งประเทศที่ลงทุนในต่างประเทศมากที่สุด

สะท้อนบทบาทเชิงรุกของทั้งสามชาติในฐานะ “ผู้กำหนดทิศทางทุนโลก”

 

รูปแบบการลงทุน: สร้างใหม่มาแรง ซื้อกิจการซบเซา

Greenfield Projects มูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนการเร่งสร้างกำลังผลิตใหม่ โดยเฉพาะ Data Center และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

ในทางตรงข้าม การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ลดลงเหลือเพียง 0.4 ล้านล้านดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

 

แนวโน้มปี 2568: ทุนโลกเดินหน้าแบบระวังตัว

UNCTAD ประเมินว่า FDI อาจชะลอต่อเนื่องจากความเสี่ยงสงครามภาษี ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรง และนโยบายอุตสาหกรรมที่เข้มข้นขึ้น บริษัทข้ามชาติจึงเร่ง “รีดีไซน์แผนที่การลงทุน” เพื่อกระจายความเสี่ยงในโลกที่ซับซ้อนมากขึ้น

 

เงินทุนไหลไปหาประเทศที่พร้อมเสมอ

FDI ปีนี้บอกเราว่า โลกกำลังค้นหาความมั่นคง ความยืดหยุ่น และเสถียรภาพทางนโยบาย ประเทศที่รักษาความเชื่อมั่นได้ จะกลายเป็นแม่เหล็กใหม่ของเงินทุนในรอบถัดไป

ในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าที่เคย ความพร้อม คือสิ่งที่เงินทุนมองหาเป็นอันดับแรก

เรื่องและภาพ: กุสุมา ธะนะวงศ์ Economist, Bnomics

════════════════

 

ที่มา.. Bnomics by Bangkok Bank


missวิมลรัตน์