ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตี๋โบ๊โผล่หัวคุย

โดย Turbo
เผยแพร่ :
67 views

 

อย่าอ่านเพลินจนลืมเฝ้าปอดนะที่รัก วันนี้มันร่วงท่ามกลางการประท้วงที่ฮ่องกง เดิมมันเรื่องภาษีของทรั้ม

แล้วของเรามันประกาศผลกำไรมาแล้ววูบมากกว่าพวกกำไรดี ฉันจะไม่เข้าไปผูกพันกับหุ้นมากมายในวันนี้

เพราะฉันต้องคุ้มครองราคาหุ้นของฉันบางตัว 

☀️Morning Routine 13.08.2019

เริ่มแล้ว! ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 5 ล้านบาท

เริ่มสัปดาห์ใหม่หลังจากที่หยุดยาวกันไป แต่ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ได้หยุดกันฮ่องกงวุ่นขึ้นเรื่อยๆ มีการปิดสนามบินแล้วทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินที่เหลือทั้งหมดตลาดหุ้นอเมริกาก็ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากปัจจัยดอกเบี้ยพันธบัตร ที่ปรับตัวลดลงในระดับเดียวกับตอนปี 2016 แต่ที่ดราม่ามากที่สุดคือตลาดหุ้นอาร์เจนติน่าปรับตัวลดลงไป 38.94% ภายใน 1 วัน จากเรื่องการเมือง ปธน.เมาริซิโอ มาร์ซี่แพ้การเลือกตั้งรอบแรกอย่างผิดความคาดหมาย

ทางด้านประเทศไทย เริ่มใช้กันแล้วสำหรับการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 5 ล้านบาท 1ชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน และจะคุ้มครองถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2563 พอเข้าวันที่ 11 สิงหาคม 2563 วงเงินคุ้มครองจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาท 1 ชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน

????????ตลาดหุ้นอเมริกาลงแรงอีกครั้ง

ตลาดหุ้นอเมริกาทั้ง Dow Jones -1.48%, S&P 500 -1.23%, Nasdaq 100 -1.11% จากปัจจัยเดิมๆ คือกลัวเรื่องสงครามการค้า และดอกเบี้ยพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.654%

กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารคือกลุ่มที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากและเป็นกลุ่มที่ดึงตลาดลงมาจากความกังวลที่ว่าดอกเบี้ยจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ๆ อย่างกลุ่ม FAANG และ Microsoft ปรับตัวลดลงไม่มาก เฉลี่ยลดลง 1% นิดๆ ตามตลาด

⛳️ราคาทองคำยังทรงตัวในระดับสูงต่อไป

หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน
ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1500 - 1525 เหรียญ ระยะสั้น คาดว่าทรงตัวในระดับนี้ไปก่อน อาจจะมีการปรับฐานบ้างระยะกลางและยาวยังแนะนำให้ลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัวลง

????????PBoC ยังกำหนดค่ากลางของเงินหยวนในระดับที่อ่อนกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์

PBoC กำหนดค่ากลางของเงินหยวนที่ระดับ 7.0211 ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่ากว่าเมื่อวันศุกร์แต่แข็งกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทางด้านฮ่องกง การประท้วงเริ่มบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆผู้ประท้วงเข้าไปในสนามบินจนสนามบินนานาชาติฮ่องกงต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดวา
นนี้ การประท้วงยืดเยื้อเข้าสัปดาห์ที่ 10 แล้ว

⛳️นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยออกมา แต่เริ่มกลับเข้ามา Long ในตลาด Future

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 2025.49 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 สิงหาคม นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 16,113 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 1 มค. - 9 สค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 44,589 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Long สุทธิทั้งใน SET50 future ที่ 3,949 สัญญา และใน

Single Stock Future ที่ 10,146 สัญญา
เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่มีสถานะ Long สุทธิทั้งใน

SET50 Index Future ที่ 1,291
สัญญา และใน Single Stock Future ที่ 46,396 สัญญา

⛳️เริ่มแล้ว ลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 5 ล้านบาท

วันที่ 11 สิงหาคม 2562 เป็นวันแรกที่เริ่มการลดลงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 5 ล้านบาท ต่อ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน ยกตัวอย่าง

เช่น นาย A มีเงินฝากอยู่ที่ธนาคาร XYZ 20 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีออมทรัพย์ 5 ล้านบาท บัญชีฝากประจำ 15 ล้านบาท และธนาคาร FFF 3 ล้านบาท บัญชีฝากประจำเพียงอย่างเดียว ถ้าวันดีคืนดีเกิดธนาคาร XYZ และ FFF มีอันเป็นไป นาย A จะได้รับการคุมครองเงินฝากสำหรับธนารคาร XYZ 5 ล้านบาท และธนาคาร FFF 3 ล้านบาท จากเงิน 23 ล้าน ได้รับการคุ้มครองเพียง 8 ล้านบาทจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากส่วนที่เหลือจะต้องรอชำระบัญชีจากสถาบันการเงินที่ปิดกิจการ

ถ้าจะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด ต้องกระจายเงินฝากจากธนาคาร XYZ ไปที่สถาบันการเงินอื่นๆ อีก 3 สถาบัน ไม่เกินสถาบันละ 5 ล้านบาท เหลือไว้ที่ธนาคาร XYZ 5 ล้านบาทพอ

ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ 11 สิงหาคม 2563 วงเงินคุ้มครองเงินฝาก 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงินจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาทเท่านั้น

ปัจจุบัน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีบัญชีเงินฝากทั้งหมด รวมทุกประเภทบัญชี 100.25 ล้านบัญชี เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 13.8 ล้านล้าน บาท เรามาดูกันว่า ผู้ที่เข้าข่ายหรือได้รับผลกระทบมีจำนวนเท่าไหร่ และมากมายขนาดไหน

ผู้ที่มีเงินฝากมากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป มีทั้งสิ้น 1.53% ของบัญชีทั้งหมด หรือราว 1.58 ล้านบัญชี แต่ 1.53% นี้ คิดเป็นสัดส่วนเงินฝากทั้งระบบราว 78.44% หรือกว่า 10.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นลำดับขั้นได้ดังนี้ มากกว่า 1 ล้าน แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท จำนวน 1.4 ล้านบัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 3.49 ล้านล้านบาท

มากกว่า 10 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 25 ล้านบาท จำนวน 84,626 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 1.26 ล้านล้านบาท

มากกว่า 25 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวน 25,798 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 900,000 ล้านบาท

มากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 22,866 บัญชี รวมเป็นเงินราว 5.17 ล้านล้านบาท

โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเงินฝากมากกว่า 500 บาทขึ้นไป มีจำนวนเพียง 1,639 บัญชี แต่เป็นเงินรวมถึง 2.51 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 1,532 ล้านบาทต่อบัญชี

กลุ่มนี้คือกลุ่มหลักที่จะได้รับผลกระทบจาก พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก(ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ รวม 35 แห่ง) แล้วผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต ลองมาไล่ดูกัน

1. ผู้ฝากเงินจะมีการกระจายเงินฝากไปที่สถาบันการเงินต่าง ๆ มากขึ้น

2.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และบำนาญของบริษัทที่มีความมั่นคง(ดูได้จากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ยิ่งมากยิ่งดี) จะได้รับความนิยมมากขึ้น

3. หุ้นกู้ของบริษัทที่มีเคดดิตเรทติ้งสูง จะได้รับความน่าสนใจมากขึ้น

4. กองทุนที่ลงทุนในตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรรัฐบาลจะได้รับความนิยมมากขึ้น

5. กองทุนหุ้นต่าง ๆ โดยเฉพาะหุ้นตัวใหญ่และปันผลดีจะได้รับความนิยมมากขึ้น

6. กองทุนอสังหาริมทรัพย์รวมไปถึงกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สินทรัพย์ในกองทุนมีความสามารถในการสร้างกระแสเ
งินสดได้อย่างต่อเนื่อง จะได้รับความนิยมมากขึ้น

7. สินทรัพย์อย่างทองคำที่มีมูลค่าในตัวมันเอง และมีมาตรฐานสากลในการกำหนดราคาก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น

8. นำเงินไปฝากหรือลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
ผู้ฝากอาจจะมองทางเลือกในการเอาเงินไปฝากหรือลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจากเรื่องกระจายความเสี่ยงและ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า

9. สินค้าแบรนด์เนมที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้เร็ว
และราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกาลเวลารวมถึงความนิยมที่มีแต่มากขึ้นอย่างนาฬิกาข้อมือ Rolex หรือ Patek Philippe ก็น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น

ปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินในไทย ถือว่ามีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งถึงแม้จะมี NPL บ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาก คาดว่าผู้ฝากเงินคงจะไม่ได้ตกใจกับ
พรบ.ฉบับนี้มากนัก ประกอบกับดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมากในตอนนี้และอาจจะต่ำลงได้อีกในอนาคตก็คงจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้มีเงินฝากกระจายเงินฝากไปที่สถาบันการเงินต่าง ๆ มากขึ้นรวมถึงสินทรัพย์ทางการเงินอย่างตราสารหนี้ กองทุน รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง ทองคำกองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและ REITS

#SCBSResearch

????Twitter : http://bit.ly/2LB9bqX

ในภาพอาจจะมี สถานที่กลางแจ้ง และข้อความ
 
 
 

Turbo