ห้องเม่าปีกเหล็ก

3 หุ้นธนาคารสุดแข็งแกร่ง

โดย อสรพิษ
เผยแพร่ :
184 views

3 หุ้นธนาคารสุดแข็งแกร่ง

ในช่วง SET ผันผวน

.

หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวดี และได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่คงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) สหรัฐฯ รุ่นอายุ 10 ปีที่เร่งตัวขึ้นจนทำสถิติใหม่ในรอบ 16 ปีอีกด้วย ดังนั้นท่ามกลางปัจจัยบวกดังกล่าว จะทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารน่าสนใจแค่ไหน Wealthy Thai หาคำตอบมาให้แล้ว

.

มุมมองนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยระดับสูง ทําให้ตลาดเพิ่มโอกาสมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% อีก 1 ครั้งในปีนี้ หนุนให้ Bond yield 10 ปีสหรัฐฯ เร่งตัวทําสถิติใหม่ในรอบ 16 ปีที่ 4.84% กดดัน Sentiment ตลาดหุ้นโลก

.

โดยมองว่ากลุ่มธนาคารอย่าง BBL KTB TTB เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ย Stay high for longer และราคาหุ้นแข็งแกร่งในช่วง SET ผันผวน

.

ขณะเดียวกัน Valuation ของหุ้นทั้ง 3 ตัวยังไม่แพง โดย P/E ปี 2566 ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ก่อนเกิดโควิดและกําไรฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เร่งตัว โดยเฉพาะ BBL ที่มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อในต่างประเทศมากกว่าธนาคารอื่น ทําให้ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุด

.

รวมถึงยังมีเบาะรองรับจากอัตราปันผลต่อปีที่อยู่ในระดับสูง โดย BBL ปี 2567 คาดให้ผลตอบแทน 4.5%, KTB ปี 2567 คาดให้ผลตอบแทน 4.8% และ TTB ปี 2567 คาดให้ผลตอบแทน 6.8%

.

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของ BBL นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า คาดกำไรไตรมาส 3/66 จะเติบโตแข็งแกร่ง 40.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะลดลง 4.9% จากไตรมาสก่อนหน้า หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) เพิ่มขึ้น จาก NIM ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลง

.

โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า NIM ของ BBL จะสูงขึ้นอีกในไตรมาส 4/66 เพราะปรับดอกเบี้ยขึ้นหลังจากที่กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.50% ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2566 จะอยู่ที่ 4.07 หมื่นล้านบาท โต 39.1% จากปีก่อน คงคำแนะนำ ซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 203 บาท

.

ส่วน KTB นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 จะอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท เติบโต 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อนหน้า เพราะการเพิ่มขึ้นของ NIM จาก yield on loan ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น กลบการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ

.

รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายรวม ด้านสินเชื่อลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นเติบโต 0.2% จากช่วงต้นปี โดยการเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2566 มาจากสินเชื่อภาคธุรกิจด้านคุณภาพสินทรัพย์

.

ขณะที่ NPL Ratio อยู่ที่ 3.20% เพิ่มจาก 3.11% ในไตรมาส 2/66 ภาพรวมมองว่า KTB เป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นและมีคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง รวมถึงมีโอกาสสร้างรายได้จากการพัฒนา Application ดังนั้นยังคงเลือกเป็น Top Pick คู่กับ BBL โดยแนะนำ ซื้อ หุ้น KTB ราคาเป้าหมาย 25 บาท

.

ปิดท้ายที่ TTB นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 จะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท เติบโต 17.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 4.5% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดปี 2566 กำไรจะเติบโตดี 21% มาอยู่ที่ 1.71 หมื่นล้านบาท จากการขยายตัวของ NIM และการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง

.

ทั้งนี้มองว่าการเติบโตของกำไรในปี 2567-2568 จะแผ่วลง คาดโตราว 9% และ 4% ตามลำดับ จากแนวโน้ม NIM ที่ขยายตัวน้อยลง อย่างไรก็ตาม แม้กำไรในปีนี้จะเติบโตดี แต่น่าจะมี upside จำกัด จึงแนะนำ ถือ เพื่อรับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 5.2-5.9% ในปี 2566-2568

 

 


อสรพิษ