ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วง 4 วันติดต่อกัน หลังรายงานประชุมเฟดเผยขึ้นดอกเบี้ยสูงขึ้น

1.จีนและรัสเซียชื่นชมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยนักการทูตระดับสูงของปักกิ่งบรรยายความสัมพันธ์ว่า “มั่นคงดุจขุนเขา” ระหว่างการพูดคุยในกรุงมอสโก ขณะที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียบอกกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐของจีนว่าเขากำลังรอให้ สี จิ้นผิง มาเยือนประเทศนี้ ทั้งนี้การพูดคุยอย่างจริงใจแสดงให้เห็นว่าจีนมีความตั้งใจเพียงเล็กน้อยที่จะละทิ้งพันธมิตรทางการทูตที่แข็งกร้าว แม้ว่าสงครามในยูเครนจะยืดเยื้อถึงมาถึง 1 ปีแล้วก็ตาม
ส่วนสหรัฐฯกล่าวว่ากำลังเฝ้าดู “อย่างระแวดระวัง” เพื่อดูว่าจีนจัดหาอาวุธให้ปูตินหรือไม่ นอกจากนี้ ไบเดน ยังกล่าวอีกว่ารัสเซียทำ “ผิดพลาดครั้งใหญ่” ในการระงับสนธิสัญญานิวเคลียร์ฉบับล่าสุดระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และเจ้าภาพ G-20 อย่างอินเดียไม่ต้องการเรียกสงครามของรัสเซียว่า "สงคราม"
2.มูลค่าของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 หลังการระบาดของโควิดสิ้นสุดลง หลังจากมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยพุ่งแตะรัดับสูงสุดที่ 47.7 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2022 ตอนนี้มูลค่ารวมของบ้านในสหรัฐฯลดลงมาแล้ว 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 4.9% ในช่วงครึ่งหลังของปี 20222
ขณะที่ราคาขายบ้านเฉลี่ยในสหรัฐฯอยู่ที่ 383,249 ดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว ลดลงจากระดับสูงสุด 433,133 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ดัชนีการยื่นขอสินเชื่อบ้านของสหรัฐร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1995 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่พุ่งแตะรัดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนกระทบความต้องการของตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีที่ผ่านมา
3.Apple กำลังทำงานในโปรเจคส์ลับที่มีมาตั้งแต่สมัย สตีฟ จ็อบส์ ยังคุมบังเหียนอยู่ ซึ่งก็คือการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบด้วยการสะกิดผิวหนัง ซึ่งถ้าหากผลการทดสอบสมบูรณ์แบบ โครงการที่มีชื่อว่า E5 อาจยกระดับอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และทำให้ Apple Watch กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายล้านคนทั่วโลก โดยชาวอเมริกันประมาณ 1 ใน 10 คนเป็นโรคเบาหวาน และหลายคนต้องอาศัยอุปกรณ์ที่จิ้มผิวหนังเพื่อเก็บตัวอย่างเลือด
4.ตลาดหุ้นเอเชียเตรียมเปิดอย่างระมัดระวังหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงโดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากรายงานการประชุมของเฟดได้รับการเผยแพร่ ส่วนดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นฮ่องกง ญี่ปุ่น และออสเตรเลียปรับตัวลดลง หลังจากดัชนี S&P500 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยนักลงทุนได้เพิ่มคาดการณ์สำหรับจุดสูงสุดอัตราดอกเบี้ยของเฟดมาอยู่ที่เกือบ 5.4% ในเดือนกรกฎาคม สูงขึ้นจากระดับสูงสุดที่ 4.9% ในเดือนมิถุนายนในเดือนที่แล้ว
Source: Bloomberg