‘หยวนต้า ส่อง กลุ่มโรงพยาบาล ชี้ 3 เหตุผลเราคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด”
1) กรมการค้าภายในประกาศมีมติให้ยาและเวชภัณฑ์ และค่าบริการของโรงพยาบาล เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งจะต้องเสนอต่อครม.พิจารณาต่อไปในสัปดาห์หน้า กลายเป็น sentiment เชิงลบ
2) เราแนะนำให้ติดตามรายละเอียดของการควบคุม เพราะโครงสร้างลูกค้าและต้นทุนของแต่ละโรงพยาบาลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เรามองว่าการผลักดันมาตรการดังกล่าวอาจไม่ง่ายในทางปฎิบัติ และอาจต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ 3) เชิงกลยุทธ์ระยะสั้น แม้ว่ากลุ่มโรงพยาบาลวานนี้ปรับตัวลง 6% แล้วแต่การฟื้นตัวก็เป็นไปได้อย่างจำกัด เราแนะนำให้นักลงทุน Wait&Seeไปก่อน โดยเฉพาะ BDMS – BH ที่ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเงินสด
ประเด็นสำคัญ
วานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) สรุปผลการประชุมเสนอให้รายการยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการหาข้อสรุปมาตรการดูแล ประกอบด้วยตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมประกันภัย ตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้ามาศึกษาและพิจารณาหาข้อสรุป บนเงื่อนไขเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภคและโรงพยาบาล โดยทาง กกร.จะส่งเรื่องให้ทางคณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติในสัปดาห์หน้า
ความเห็นและคำแนะนำ
ประเด็นดังกล่าวกดดันให้กลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวลงแรงถึง 6% หลังกกร.มีมติดังกล่าว สะท้อนความกังวลไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่เรามองว่ากลุ่มโรงพยาบาลอาจปรับตัวลงได้อีกในวันนี้ ซึ่งในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเรามองว่า กลุ่มโรงพยาบาลจะฟื้นตัวได้อย่างจำกัดในช่วงสั้น จนกว่าจะมีความชัดเจนของมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการ
1. นิยาม ณ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ยา เป็นสินค้าควบคุม คือเป็นสินค้าที่มีการติดตามราคาจากทาง กกร.และโรงพยาบาลต้องแจกแจงราคา เรามองว่าส่วนนี้มีผลกระทบจำกัดหากเพิ่มรายการเวชภัณฑ์ และค่าบริการ
2. หากเสนอราคากลาง หรือเพดานราคาของผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งเรามองว่าทำได้ค่อนข้างยาก เพราะต้นทุนและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละโรงพยาบาลมีความต่างกัน อีกทั้งประเภทของยาและเวชภัณฑ์ก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน แต่หากผลการศึกษาออกมาเป็นแนวทางนี้ กลายเป็นผลลบต่อผู้ประกอบการในแง่ของมาร์จิ้น และการปรับขึ้นค่าบริการจากนี้ไปจะลำบากขึ้น แต่ก็จะมาพร้อมกับคุณภาพการบริการที่ลดลงได้เช่นกัน ทำให้เรามองว่าเกณฑ์ลักษณะนี้ยากที่จะผลักดันออกมา
เราคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” เชิงกลยุทธ์เรามองว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะถูกกดดันจากประเด็นนี้ไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีความชัดเจน ทำให้เราแนะนำ Wait&See กลุ่มโรงพยาบาลออกไปก่อน แม้ว่าในเชิงปัจจัยพื้นฐานเรามองว่า BCH (BUY – TP23.20 THB) จะเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวน้อยกว่า BDMS – BH ที่ฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเงินสด เพราะด้วยโครงสร้างรายได้ของ BCH ราว 33% เป็นกลุ่มลูกค้าประกันสังคม อีกราว 67% จากกลุ่มลูกค้าเงินสด