ห้องเม่าปีกเหล็ก

เมื่อธุรกิจ S-Curve ของ GULF กำลังสร้างพรีเมี่ยมให้กับราคาหุ้น

โดย STEELBAR
เผยแพร่ :
121 views

เมื่อธุรกิจ S-Curve ของ GULF

กำลังสร้างพรีเมี่ยมให้กับราคาหุ้น

 

.

เมื่อไม่นานมานี้ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ 29 แล้ว โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศ ที่ถือหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด mai ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2565

.

โดยการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 ยังคงเป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ซึ่งเป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 218,981.58 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 45,881.86 ล้านบาท หรือ 26.51%

.

แต่อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ เราจะพาไปรู้จัก GULF กันให้มากขึ้นในอีกมุม หลังจากที่นักวิเคราะห์ยืนยันหนักแน่นและประสานเสียงว่า GULF กำลังจะไม่ได้เป็นแค่ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าอีกต่อไป เพราะ GULF มีแผนพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภทที่จะกำลังเริ่มทยอยรับรู้รายได้

.

ปี 2566 เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ S-Curve

ล่าสุด GULF ทุ่มเงินกว่า 2 พันล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุนไทยแท้งค์เทอร์มินัล โดยได้ทำการเข้าถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 สัดส่วน 28.57% ซึ่งพร้อมรับรู้ผลประกอบการทันทีตั้งแต่ธ.ค. 2565เป็นต้นไป โดย บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าใน 2566 จะบันทึกส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนถือหุ้นประมาณ 300 ล้านบาท

.

ขณะที่ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBS คาดว่าการลงทุนในไทยแทงค์เทอร์มินอลจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ GULF ในปี 2566 ประมาณ 2% ซึ่งยังไม่มาก แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังมี Synergy ทางธุรกจิ ในระยะกลาง- ทั้งนี้คาดภาพรวมกำไรสุทธิปี 2565 ไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 43% โดยมาจากรายได้โรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหลัง COD โครงการใหม่ & อุปสงค์เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีผลตอบแทนจากการลงทุนใน INTUCH เข้ามาหนุน

.

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า หากพิจารณาในแง่ของการสร้างกำไร การลงทุนในครั้งนี้สามารถช่วยให้ GULFรับรู้กำไรเข้ามาได้ทันที อย่างไรก็ตามหากอิงผลประกอบการย้อนหลังในปี 2564 พบว่า TTT มีกำไรอยู่ที่ราว 1.1 พันล้านบาท

.

คาดจะช่วยให้ GULF รับรู้ผลประกอบการตามสัดส่วนการถือหุ้น 28.69 ที่ราว 304 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1.7% ของประมาณการกำไรปี 2566 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ ทั้งนี้ถือว่ายังไม่มีนัยฯ เบื้องต้นจึงคงประมาณการและมูลค่พื้นฐานของ GULF ณ สิ้นปี 66 อยู่ที่ 65 บาท/หุ้น โดยคงคำแนะนำทยอยซื้อสะสมลงทุน รับการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว

.

GULF กำลังก้าวไกลเกินผู้ผลิตไฟฟ้า

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า GULF กำลังก้าวไปไกลเกินกว่าจะเป็นแค่ผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ conventional เพราะบริษัทมักจะสร้างความแปลกใจให้กับนักลงทุนด้วยโครงการ และธุรกิจใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งคู่แข่งไม่อาจทาบติด ซึ่งเป็นเหตุให้หุ้น GULF มักจะมี premium มากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม

.

ทั้งนี้ GULF กำลังหา S-Curve ใหม่ๆด้วยการมุ่งไปทางด้านของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน, data center, สื่อสาร, ดิจิทัล และ โครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ยังมีกระแสเงินสดแบบ recurring ให้แข็งแกร่งโดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเมื่อเทียบกับหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่ม

.

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ด้านธุรกิจดิจิทัล มุ่งปรับโครงสร้าง INTUCH ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ร่วมลงทุนกับ Binance คาดได้ใบอนุญาตช่วงต้นปี 2566 โดยการลงทุนใน INTUCH บริษัทมองแนวโน้ม ผลประกอบการจะฟื้นตัวใน 2566 ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้าง ส่วนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลคาดเริ่มธุรกิจได้ในปี 2566 หลังได้รับใบอนุญาต

 

 


STEELBAR