เลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว...
ภาวะตลาดหุ้นไทย ซึ่งถูกขับเคลื่อนไปด้วยปัจจัยทั้งพื้นฐานของหุ้น สภาพคล่องที่มาจากเม็ดเงินมากมายในโลกนี้ เป็นเรื่องที่เราต้องเฝ้าติดตาม สิ่งที่จะทำให้ปัจจัยสำคัญดังกล่าวเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย เรื่องสภาพคล่องที่วันนี้ต้องยอมรับว่าต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่เพราะว่าตลาดหุ้นไทยตอนนี้จะหมดเสน่ห์แล้วหรืออย่างไร เพียงแต่ต่างชาติอาจจะเห็นว่าราคาหุ้นที่ขึ้นมาดูแพงไปแล้ว ก็เลยเริ่มทยอยลดน้ำหนักการลงทุนลง แต่โดยรวมตลาดก็ไม่ถึงกับมีการปรับฐานรุนแรงอะไร เป็นลักษณะแกว่งตัวไซด์เวย์มากกว่า และมีความผันผวนในระหว่างวันเสียเป็นส่วนใหญ่ เช้าเปิดเขียว เย็นปิดแดง หรือ เช้าเปิดแดง เย็นปิดเขียว..
ในภาวะตลาดที่ดูเหมือนจะแพง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหุ้นดีๆให้เล่นกัน ซึ่งถ้าจะให้เหมาะให้เข้ากับสถานการณ์ คงต้องเลือกเน้นลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว อย่าง PTT ที่วันนี้ราคาพุ่งขึ้นเหนือ 500 บาทไปแล้ว ที่หลายคนอาจคิดว่าแพง ทั้งที่จริงหากเปรียบวัดด้วย พื้นฐานที่แท้จริง ค่าพีอี ที่11 เท่า ถือว่าไม่ได้แพงเลย แถมยังมีปันผลระดับ 3 % ให้อีก นับเป็นหุ้นใหญ่ที่ช่วงนี้ราคาขยับขึ้นแรง รับข่าวดีเรื่องผลประกอบการทะลุแสนล้านและการแตกพาร์ เพิ่มสภาพคล่อง ก็ทำให้หุ้นมีการซื้อขายกันระเบิดเถิดเทิง และก็ยังมองว่ายังจะไปต่อได้อีก
ส่วนอีกตัวหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT นี่คือหุ้นยอดนิยมขวัญใจนักลงทุน เป็นหุ้นพื้นฐานเยี่ยม ธุรกิจแทบจะผูกขาดไร้คู่แข่ง หนุนด้วยการเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว ก็ยิ่งทำให้หุ้นตัวนี้ นับได้ว่าเป็นหุ้นเติบโต อีกตัวหนึ่งที่ต้องมีในพอร์ต ที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้าซื้อทั้งเก็งกำไรเล่นรอบ และซื้อเก็บลงทุนระยะยาว...บินสูงติดลมบนแล้ว
SGP หรือ สยามแก๊ส ที่โชว์กำไรปี 60 ทะลัก 2.81 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7 พันล้านบาท หรือ 151.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แถมยังจัดหนักจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังอีก 1 บาท/หุ้น และที่ไม่ตกเทรนบอร์ดยังมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เหลือหุ้นละ 0.50 บาท จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องหมุนเวียนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบัน กองทุน และนักลงทุนทั่วไป สนใจเข้ามาลงทุนในหุ้น SGP เป็นจำนวนมาก แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพคล่อง จึงเป็นที่มาให้หายสงสัยว่าทำไมราคาหุ้นถึงได้พุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ที่แท้ก็...อย่างนี้นี่เอง
BEAUTY ชื่อก็สวยแถมราคาก็ยังสวยได้อีก โชว์ผลงานปี 60 อลังการงานสร้าง รายได้และกำไรทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เข้าตลาดฯมา กวาดรายได้ไป 3.7 พันล้านบาท เติบโต 45.98 % มีกำไรสุทธิ 1.23 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.39 % ส่วนกำไรไตรมาส 4 โตกระฉูดอีก 129.62 % พร้อมจ่ายปันผลงาม 0.408 บาท/หุ้น คิดเป็น 99.70% ของกำไรสุทธิ เป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุนอีกเช่นกัน ด้วยความสามารถในการสร้างผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และไม่ได้ทำให้นักลงทุนนั้นผิดหวังเลยในช่วงที่ผ่านมา แม้หลายคนจะมองว่าราคานั้นพุ่งแรงเกินพื้นฐานที่แท้จริงไปแล้วหรือไม่ แต่ที่เห็นในวันนี้ หาก BEAUTY ยังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองแบบนี้ได้ต่อ แพงกว่านี้ก็มีคนพร้อมจะสู้...สวยสมชื่อจริงๆ
ในเมื่อทุกอย่างยังไม่เป็นไปอย่างที่หลายคนมองไว้ก่อนหน้า จึงไม่แปลกที่แรงซื้อแรงขายกระจุกตัวอยู่ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพราะเวลานี้เป็นการเลือกเล่นหุ้นแบบรายตัวเป็นหลัก อาศัยปัจจัยกระทบเฉพาะตัว ทั้งผลประกอบการที่ประกาศออกมา สตอรี่เรื่องราวในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ล้วนส่งผลต่อการขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้มากที่สุด