วิเคราะห์การเมืองยังมีความหวัง... ถ้าถอยคนละก้าว **เกี่ยวอะไรกับหุ้นและการลงทุน
ลองอ่านกันดูครับ
-----------------------------------------
25 สิงหาคม 2563 -- Theme Strategy : Yuanta Securities
25 August 2020
การเมืองยังมีความหวัง... ถ้าถอยคนละก้าว...
การเมืองในประเทศมีน้ำหนักกับ SET INDEX มากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวที่ Underperform ภูมิภาค และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือน ก.ค. 63 ที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี เราประเมินปัจจัยการเมืองจะเข้มข้นมากขึ้นอีกในเดือน ก.ย. 63 เพราะสภาฯมีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2564 ในวาระ 2,3 และอาจมีการอภิปรายรัฐบาลเป็นการทั่วไป รวมถึง การนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าพิจารณา ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ 19 ก.ย. 63 เราประเมินผลกระทบต่อ SET INDEX ไว้ 3 กรณี โดยกรณีที่ดีสุดคือ การตอบรับ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม และเดินหน้าเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน SET INDEX จะลดภาวะ Underperform ภูมิภาคไปเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,380 จุด แต่ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อ เบื้องต้นประเมิน Downside ที่กรอบ 1,250-1,270 จุด ทั้งนี้ เนื่องจาก SET INDEX ปรับฐานจากจุดสูงสุดมาแล้ว -10% ซึ่งถ้าอิงการชุมนุมใหญ่ 4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2549 รวมถึงเหตุการณ์เดือนพฤษภาคมปี 2535 พบว่า SET INDEX มีการปรับฐานจากจุดสูงสุดเฉลี่ย -13% จึงถือว่าเหลือ Downside อีกไม่มาก อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ถูกกระทบจากการเมืองในประเทศจำกัด และได้อานิสงส์เชิงบวกจากพัฒนาการของวัคซีน COVID-19 ได้แก่ CRC, CPF, IVL, MINT, THCOM, KCE, TACC จนกว่าจะผ่านพ้นเดือน ก.ย. 63 หรือแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศจะคลายตัวลงชัดเจน
การเมืองในประเทศมีน้ำหนักต่อ SET INDEX มากขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดหุ้นไทย Underperform ภูมิภาคนับตั้งแต่กลุ่มเยาวชนปลดแอกเริ่มชุมนุมเมื่อ 18 ก.ค. 63 และต่อเนื่องมาถึง 10 ส.ค. 63 และ 16 ส.ค. 63 ที่ยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งข้อเสนอต่อรัฐบาลและจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุม รวมไปถึง การแสดงท่าทีเชิงสัญลักษณ์ของหลายกลุ่มทั้งนักเรียน นักศึกษา และแรงงานที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งถ้าพิจารณาการเคลื่อนไหวของ SET INDEX นับตั้งแต่ 18 ก.ค. 63 พบว่า ปรับตัวลง -3.0% เทียบกับกลุ่ม TIPs ที่ -0.6% และ MSCI Asia ex Japan ที่ +3.8% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือน ส.ค. 63 ลดลง -13% MoM เหลือเพียง 5.4 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีผ่านมา นักลงทุนสถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิใน ก.ค. 63 ที่ -4.7 พันล้านบาท ก่อนกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย 525 ล้านบาทใน ส.ค. 63 ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และขายเร่งตัวขึ้นอีก -1.4 หมื่นล้านบาท ผลกระทบจากการเมืองในประเทศต่อการเคลื่อนไหวของ SET INDEX และสภาพคล่องในระยะนี้ จึงสัมพันธ์เชิงผกผันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3 กรณีศึกษาเมื่อพิจารณาจากปฏิทินการเมืองเดือน ก.ย. 63
ในเดือน ก.ย. 63 สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2564 ในวาระ 2,3 และอาจมีการอภิปรายรัฐบาลเป็นการทั่วไปจากฝ่านค้าน รวมไปถึง การนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าพิจารณา ซึ่ง 2 ประเด็นหลังยังไม่แน่ว่าบรรจุวาระทันสมัยประชุมสภาฯนี้หรือไม่ แต่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้มีการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย. 63 (และอาจเป็นครั้งแรกที่ชุมนุมแบบค้างคืน) โดยยืนยันให้รัฐบาลตอบรับ 3 ข้อเสนอ คือ แก้รัฐธรรมนูญ, ยุบสภา, และหยุดคุกคามประชาชน เราประเมินผลกระทบต่อ SET INDEX ไว้ 3 กรณีดังนี้
กรณีที่ดีที่สุด รัฐบาลตอบรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อนำไปสู่การเจรจา – คาด SET INDEX กลับไปเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,380 จุด จากการลดภาวะ Underperform ราว 3-5% เมื่อเทียบกับภูมิภาค
กรณีที่เป็นกลาง การชุมนุมยืดเยื้อ แต่ไม่มีความรุนแรง - คาด SET INDEX แกว่งลงตามกรอบ Parallel Downtrend Channel หา 1,250-1,270 จุด อิงจากการชุมนุมใหญ่ 4 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2549 ที่ SET INDEX ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในแต่ละรอบเฉลี่ย -13% (สมมติฐานอิงจากการเคลื่อนไหวเฉพาะ SET INDEX ที่ยังไม่ลดทอนการเคลื่อนไหวเชิงเปรียบเทียบกับภูมิภาค)
กรณีแย่ที่สุด การชุมนุมยืดเยื้อและมีความรุนแรง - คาด SET INDEX ทรุดตัวลง 15-20% จากจุดสูงสุดของรอบหากรอบ 1,160-1,230 จุด (อิงพฤษภาทมิฬ)
อดีตที่ผ่านมา การเมืองกดดันสั้นๆ แต่ให้เน้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวไว้ก่อน
แม้อดีตที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าปัจจัยการเมืองจะส่งผลลบต่อ SET INDEX เพียงช่วงสั้นๆ แต่ระหว่างรอความชัดเจนตามปฏิทินการเมืองในเดือน ก.ย. 63 และเป็นไปได้ที่ปัจจัยเศรษฐกิจมหาภาคจะกดดันเพิ่มเติม เพราะการฟื้นตัวของกำลังซื้อยังล่าช้าและมีโอกาสที่ NPL จะเร่งตัวขึ้น
เราจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ถูกกระทบจากการเมืองในประเทศจำกัด และได้อานิสงส์เชิงบวกจากพัฒนาการของวัคซีน COVID-19 ได้แก่ CRC, CPF, IVL, MINT, THCOM, KCE, TACC โดยในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 50% ของพอร์ต จนกว่าแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศจะคลายตัวชัดเจน
Natapon Khamthakrue
ID: 026637
Tel. 662 009 8059