เมื่อไม่นานมานี้มีการวิเคราะห์ข่าวจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ว่า " ในสงครามการค้าโลกระหว่างจีน และ สหรัฐอเมริกานั้น ผลที่จะตามมาคือนักลงทุนชาวต่างชาติที่ไปลงทุนในจีน จะย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศอื่นๆ และ หนึ่งในนั้นคือประเทศเวียดนาม โดยไม่มีชื่อของประเทศไทยอยู่ในนั้นเลย "
ผู้โพสต์ขอแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างว่า " ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเป้าหมายหลักในการย้ายฐานการลงทุน ไม่ไช่ประเทศเวียดนาม " โดยประเทศไทยมีข้อได้เปรียบประเทศเวียดนาม ต่อไปนี้ คือ :
1) การได้มาซึ่งใบอนุญาตในการลงทุนง่ายกว่าในประเทศเวียดนาม เพราะระบบการเมืองการปกครองของประเทศเวียดนามนั้น รัฐบาลท้องถิ่นยังคงมีอิทธิพลต่อการดําเนินการทางธุรกิจสูง
2) บรรยากาศความเป็นอยู่ และ การดําเนินการทางด้านธุรกิจของประเทศไทยน่าจะเอื้ออํานวยได้ดีกว่าประเทศเวียดนาม
3) Infrastructure ของประเทศไทยดีกว่าประเทศเวียดนามมาก ไม่ว่าจะเป็น สนามบิน ถนนหนทาง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และ อื่นๆ โดยเฉพาะโครงการอีอีซี ( EEC ) และ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้าน ล้าน บาท
4) ตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยได้เปรียบประเทศเวียดนาม เพราะ มีทะเลโอบล้อมทางภาคใต้ และ ทางเหนือก็ติดภูเขาและเป็นที่ราบสูง โอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมีน้อยกว่าประเทศเวียดนาม อีกทั้งประเทศไทยยังมีตั้งอยู่ในบริเวณเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางของเอเซียและของอาเซียนได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Logistics Hub, Tourism Hub, Medical Hub และ อื่นๆ
เพราะฉะนั้น ประเทศไทยน่าจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้ดีกว่าประเทศเวียดนามในอนาคต และ โอกาสที่เวียดนามจะแซงหน้าไทยนั้นมีน้อย เหมือนกับโอกาสที่จีนจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาก็มีน้อย เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และ ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องได้
หมาเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com