หุ้นโรงกลั่นราคาดิ่งยกแผง รับข่าวกระทรวงพลังงานศึกษาลดค่าการกลั่น
หุ้นโรงกลั่นราคาดิ่งยกแผง รับข่าวกระทรวงพลังงานศึกษาขอความร่วมมือปรับลดค่าการกลั่น TOP ลงแรงสุดมีผลกระทบเพิ่มทุน คาดอาจใช้โมเดลเดียวกับปี 2008 ที่กดราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าราคาตลาด 3 บาทต่อลิตร จำนวน 122 ล้านลิตรต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน แนะราคาย่อเป็นจังหวะ “เข้าซื้อ”
วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในตลาดหุ้นไทยวันนี้พบว่าราคาหุ้นย่อตัวลงหมด นำโดย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) -4.53%, บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) -1.50%, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) -2.56%
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) -1.11%, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) -0.71%, บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) 0.00%, บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO) -1.57%
ด้านนายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นโรงกลั่นปรับตัวร่วงนั้น มาจากความกังวลกรณีที่กระทรวงพลังงานกำลังอยู่ระหว่างศึกษาที่จะขอความร่วมมือปรับลดค่าการกลั่น แต่ TOP ที่ปรับตัวแรงสุดอาจจะมีประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนด้วย ซึ่งใกล้จะถูกขึ้นเครื่องหมายจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยภาพรวมที่เห็น หุ้นโรงกลั่นจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกที่ราคาไม่ลงหรือลงนิดเดียวคือ SPRC และ ESSO กับอีกกลุ่มที่ราคาลงแรงคือ TOP และ BCP
“ต้องยอมรับว่ากลุ่มของ SPRC และ ESSO จะได้ประโยชน์สูงสุดจากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน เพราะสองโรงกลั่นนี้ไม่ได้ทำ Hedging เลย ในขณะที่โรงกลั่นในกลุ่ม ปตท.และบางจากยังมีการทำ Hedging ฉะนั้นในแง่ของค่าการกลั่นที่ดีขึ้นจะไม่ได้รับเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะมี Hedging Loss ในช่วงไตรมาส 2 และครึ่งหลังของปีนี้” นายจักรพงศ์ กล่าว
โดยกรณีที่กระทรวงพลังงานศึกษาที่จะขอความร่วมมือปรับลดค่าการกลั่น ในรอบที่แล้ว สมัยปี 2008 รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก็ได้มีการขอความร่วมมือกับกลุ่มโรงกลั่นให้เข้าช่วยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งตอนนั้นผู้ที่เข้าร่วมประกอบด้วย โรงกลั่นน้ำมันในกลุ่ม ปตท.ทั้งหมดคือ TOP, PTTGC, IRPC และ BCP ก็ยอมให้ราคาน้ำมันดีเซลต่้ำกว่าราคาตลาด 3 บาทต่อลิตร เป็นจำนวน 122 ล้านลิตรต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจะให้กระทรวงพลังงานจัดสรรน้ำมันราคาถูกให้กับกลุ่มที่เป็นผู้มีรายได้น้อยและขนส่งสาธารณะ
รอบนี้เชื่อว่าทำได้ดีที่สุดก็คงเหมือนในลักษณะนี้เหมือนกัน เพียงแต่ปริมาณอาจจะยังไม่แน่นอน อาจจะมากกว่าเดิมเล็กน้อยที่จะช่วยได้ เพราะค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูงจริงๆ แต่สำหรับกลุ่มโรงกลั่นบริษัทต่างชาติไม่ได้เข้าร่วมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้
ดังนั้นราคาหุ้นในแง่ของราคาที่ย่อตัวลงก็เป็นจังหวะ “เข้าซื้อ” เพราะว่าปริมาณผลกระทบรอบที่แล้วอยู่แค่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มากเพราะจ่ายกัน 4 โรงกลั่น