บทบรรณาธิการ : ตลาดหุ้นเดือน 9 ยังไปได้
.
เผลอแป๊ปเดียว เข้าสู่เดือนที่ 9 แล้ว สำหรับปี 2565 แถมปีนี้ยังเป็นอีกปี ที่หนักหน่วงมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง เพราะตั้งแต่ครึ่งปีหลังมา เงินเฟ้อพุ่งสูงทั่วโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมัน จนทำให้สินค้าอุปโภค บริโภค ต้นทุนต่างๆ ขึ้นตามๆ กัน และล่าสุดก็ค่าไฟ ค่าก๊าซ ที่เพิ่งปรับขึ้นไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นดูทรงแล้ว ปีนี้ทั้งปี คนไทยคงต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ส่วนเรื่องของการลงทุนนั้น ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ตลาดหุ้นผันผวน เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ เพราะถูกปัจจัยลบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างหนักหน่วงของเฟด และธนาคารกลางทั่วโลกกดดัน หลังจากแทบทุกประเทศ มีปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย กับ ยูเครน
.
เพราะฉะนั้น 9 เดือนที่ผ่านมา ใครที่ยังรักษาพอร์ตของตัวเองให้เขียวสดใส มีกำไรจากการลงทุนสม่ำเสมอ หรือบาดเจ็บน้อยที่สุด ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เพราะเอาจริงๆ อย่างที่บอกก่อนหน้า ตลาดฯ เอาแน่นอนไม่ค่อยได้ และเท่าที่ได้คุยกับนักลงทุนหลายๆ คนกลัวขาดทุน เลยหันมาถือเงินสดไว้ให้อุ่นใจมากขึ้น บางส่วนก็อาจจะแบ่งไปลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยง และตามภาวะดอกเบี้ยที่เริ่มสูงขึ้น
.
ส่วนตลาดหุ้นเดือน 9 หรือเดือนกันยายน ทิศทางจะเป็นอย่างไรนั้น สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ ได้รวบรวม ความเห็นจาก 5 โบรกเกอร์ ทั้งแนวโน้มตลาดฯ ปัจจัยบวก ลบ ที่ส่งผลต่อตลาด และที่ขาดไม่ได้ก็คือกรอบดัชนี เพื่อไว้เป็นแนวทางในการลงทุนช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
.
เริ่มจาก บล.เอเซียพลัส ที่มองว่าตลาดยังแข็งแกร่งกว่าตลาดอื่น และคาดว่าจะมีเงินไหลเข้า จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว เพราะแรงกดดันเรื่องดอกเบี้ย เงินเฟ้อลดลง ให้กรอบดัชนี 1,580-1,670 จุด
.
บล.ไอร่า มอง SET เริ่มพักฐาน และยังคงกังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ย พร้อมกับให้จับตาค่าเงินบาทอ่อนค่า จะทำให้เงินไหลออก โดยมองสัญญาณเทคนิค SET มีอัพไซด์จำกัด ให้กรอบดัชนี 1,585-1,640 จุด
.
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มีมุมมองที่ดีต่อ SET ว่ายังแข็งแกร่งกว่าตลาดอื่น จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว และได้ราคาน้ำมันสูงหนุนหุ้นพลังงาน กับเงินทุนไหลเข้า ให้กรอบดัชนี 1,600-1,670 จุด
.
บล.ทิสโก้ ประเมินตลาดผันผวนง่าย จากปัจจัยธนาคารกลางหลายแห่งเร่งขึ้นดอกเบี้ย ประเด็นการเมือง ปมตัดสินนายกฯ จะทำต่างชาติ ขายหุ้น ให้กรอบดัชนี 1,650-1,700 จุด
.
และ บล. ทรีนีตี้ ประเมินตลาดผันผวน เหมือนทิสโก้ โดยแนะให้จับตาการประชุมเฟด และ ECB รวมทั้งความเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้กรอบดัชนี 1,570-1,690 จุด
.
ดูจากความเห็นของ 5 โบรกเกอร์แล้ว แม้อาจจะมีเห็นต่างบ้าง แต่หลักๆ ก็คือ ยังให้เกาะติดเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย และเงินทุนไหลเข้า-ออก แม้ดูว่าเศรษฐกิจประเทศจะเริ่มฟื้นตัว แต่ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตา ส่วนกรอบดัชนีฯ ก็เป็นกรอบเดิมๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งหากมองในมุมบวก ถ้าไม่มีปัจจัยอะไรผิดคาด ใครๆ ก็คงหวังจะเห็นตลาดปลายปีไปที่ 1,700 จุดได้เสียที