ห้องเม่าปีกเหล็ก

ปั่นหุ้นโดยสุจริต ?

โดย Fin-trading
เผยแพร่ :
76 views

หวั่นพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯใหม่ เปิดช่องบจ.`ปั่นหุ้นโดยสุจริต` ผ่านระบบ ELCID สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย - -17 ต.ค. 59 10:30 น. การเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ภายใต้ร่างพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯฉบับใหม่จะต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะจากนี้ไปทุกข้อมูลข่าวสารที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะต้องผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) หรือที่เรียกว่าระบบ ELCID ก่อนเท่านั้น เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น(อินไซด์) ซึ่งเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ถึงข้อดีข้อเสียกันอย่างกว้างขวางในขณะนี้

แต่ดูเหมือนว่าจะมีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลของ บจ. แต่ยังไม่มีใครตั้งข้อสังเกตและพูดถึงเท่าไหร่นัก นั่นก็คือการเปิดเผยข้อมูลอันมีนัยสำคัญผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างถูกต้อง เช่น การออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ การซื้อกิจการ หรือการถูกซื้อกิจการ การเข้าจดทะเบียนทางอ้อม(แบ็กดอร์) เป็นต้น

 

แต่ให้หลังไม่นานดีลต่างๆที่เคยประกาศไว้กลับล่มหรือยกเลิกกลางอากาศ ที่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะระหว่างทางตั้งแต่ประกาศข้อมูลออกไป ราคาหุ้นมักจะเคลื่อนไหวหวือหวา เกิดการเก็งกำไรรับข่าวอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน แต่พอถึงวันที่ประกาศยกเลิกดีลต่างๆเหล่านั้น ราคาหุ้นก็จะปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายให้นักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก

หลายฝ่ายจึงตั้งข้อสังเกตุว่าการเปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯอาจใช้เป็นช่องทางในการหาประโยชน์ได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯฉบับใหม่ประกาศใช้ จะมีข่าวสารจำนวนมากถูกส่งเข้าไปฟอกผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนนำมาใช้"หาประโยชน์ได้โดยสุจริต" หรือไม่?

 

*** เปิดข้อมูลปี 59 พบ 5 ดีลล่มกลางอากาศ จากการสำรวจข้อมูลของ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" พบว่า ในรอบปีที่ผ่านมามีบริษัทจดทะเบียนประกาศดีลและยกเลิกในเวลาต่อมา จำนวน 5 ดีล ประกอบด้วย

1.การยกเลิกขายหุ้น PP มูลค่า 1,400 ล้านบาท ของ บมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (GENCO) ให้กับ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) และ บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ช่วงเดือน ก.พ.59

2. ในเดือนเม.ย.59 บมจ.โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น (FOCUS) ก็ยกเลิกแผนเพิ่มทุน-แจกวอร์แรนท์ สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ

3. บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) ยกเลิกแผนเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น ที่จะใช้ซื้อโรงเรียนนานาชาติ หลังประกาศแผนไปเมื่อเดือน ม.ค.59

4. บมจ.ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (T) ก็ยกเลิกการขายหุ้น PP ให้กับ "วิชัย ทองแตง"

5. บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR) ที่ยุติดีล Backdoor กับกลุ่ม "ไทย ฟิวเจอร์ เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง" ซึ่งการที่ดีลข้างต้นต้องยุติลงไป เกิดจากผลการศึกษาหรือการเจรจาที่ไม่ลงตัวทั้งสิ้น แต่ระหว่างนั้นราคาหุ้นได้รับข่าวทั้งเชิงบวกและเชิงลบไปอย่างมีนัยสำคัญแล้ว

 

*** พบส่วนต่างราคาหุ้นมากกว่า 100% ตั้งแต่เริ่มออกข่าว-ดีลล่ม เมื่อประเมินจากความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นพบว่า ในกลุ่มที่มีข่าวข้างต้นมีความเคลื่อนไหวของราคาที่โหดเหี้ยมทั้งขาขึ้นและขาลง ไล่ตั้งแต่ GENCO ที่ราคาหุ้นถูกลากด้วยกระแสโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและข่าวร่วมทุน จากหุ้นที่เทรดระดับไม่ถึง 1 บาท ขึ้นไปสูงสุดถึง 6.90 บาท เมื่อต้นปี 59 โดยช่วงที่ประกาศขาย PP ให้ SUPER และ TFD เมื่อช่วงกลางปี 59 ราคาหุ้นก็ยังสามารถยืนระยะได้ที่ 4-5 บาท แต่หลังจากดีลล่มและประกาศยกเลิกแผนขายหุ้น PP ราคาหุ้นกลับลงไปย่ำอยู่แถว 1 บาทกลางๆ ด้วยสภาพคล่องที่แห้งเหือดไปตามกัน

 

เช่นเดียวกับ T ช่วงที่มีข่าวขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้ "วิชัย ทองแตง" ดันราคาหุ้นขึ้นไปทำไฮของปีที่ 0.27 บาท แต่ให้หลังไม่นานหลังประกาศยกเลิก ราคาหุ้นก็สาละวันเตี้ยลง และทุกวันนี้กลับไปอยู่ในระดับเดิมที่ 0.13 บาท หรืออย่างกรณีล่าสุดดีลของ STAR ที่ลากหุ้นขึ้นไปถึง 8.35 บาท แต่ล่าสุดร่วงไปเหลือเพียง 4.76 บาท เท่านั้น หนำซ้ำยังเคยลงไปต่ำสุดถึง 3.40 บาท

อย่างไรก็ตาม การแจ้งข่าวสารและยกเลิกข่าวสาร เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ต้องมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงได้ และไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะมีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝง เพราะในความเป็นจริงของโลกธุรกิจมีความซับซ้อนและไม่แน่นอนอยู่มาก การยกตัวอย่าง 5 ดีลข้างต้นก็เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนและสัมพันธ์กันระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและข่าวสารที่ถูกปล่อยผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯเท่านั้น

 

*** ก.ล.ต.-ตลท. ยันไม่ใช่ช่องโหว่ ระบุมีการตรวจสอบทุกดีลอย่างถี่ถ้วน เมื่อสอบถามไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นช่องโหว่หรือไม่ แม้บจ.ใช้วิธีการแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างถูกต้อง โดยข่าวนั้นๆล้วนแต่มีนัยต่อพื้นฐานและราคาหุ้น แต่สุดท้ายบริษัทกลับยกเลิกดีลดังกล่าว

"ปริย เตชะมวลไววิทย์" ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ความเห็นว่า "คงไม่ถือว่าเป็นช่องโหว่ เพราะบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นได้รับทราบ ขณะที่กระบวนการต่างๆ

เช่น การเพิ่มทุนหรือการซื้อกิจการ ต้องผ่านด่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นก่อน ซึ่งหากไม่เหมาะสมผู้ถือหุ้นก็คงไม่ปล่อยผ่านแน่ เหมือนหลายดีลก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆในภายหลัง บริษัทจดทะเบียนต้องชี้แจงสาเหตุและข้อเท็จจริงต่างๆ โดยละเอียดต่อตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว" ปริย กล่าว

 

ด้าน "สันติ กีระนันทน์" รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ บจ. จะต้องชี้แจงรายละเอียดให้ครบถ้วนถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจนสิ้นข้อสงสัยอยู่แล้ว มิเช่นนั้นจะถูกพักการซื้อขาย ส่วนในรายที่มีความผิดปกติของราคา ตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีระบบในการตรวจสอบอยู่แล้ว หากพบก็จะส่งให้ ก.ล.ต.ดำเนินการต่อไป "การแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นสิ่งที่ บจ.พึงปฏิบัติ

ส่วนที่แจ้งมาแล้วยกเลิกคงต้องติดตามในแต่ละกรณีไปและไม่สามารถให้ความเห็นต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ โดยตลาดฯ มีระบบมอนิเตอร์หุ้นที่มีความผิดปกติอยู่แล้ว ที่สำคัญนักลงทุนต้องพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน มิควรตัดสินใจจากข้อมูลเพียงด้านเดียว ต้องประเมินองค์ประกอบอื่นๆ อย่างละเอียด" สันติ กล่าว

 

*** วงการชี้เป็นการปั่นหุ้นโดยสุจริต ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทจดทะเบียน มองว่า พฤติกรรมดังกล่าว เหมือนการเจตนาปั่นหุ้นโดยสุจริต พบเจอบ่อยครั้ง และส่วนมากจะเกิดกับบริษัทที่มักมีปัญหาเรื่องผลประกอบการ "พฤติกรรมแบบนี้มีมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่ผลประกอบการไม่สู้ดีนัก จึงใช้ประเด็นเรื่องการขาย PP หรือ ซื้อกิจการ มาสร้างสตอรี่ใหม่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและหลอกล่อรายย่อยเข้ามาช่วยดันราคาหุ้น

ซึ่งอาจจะมีการคุยกันจริงกับผู้ลงทุนรายใหม่และเห็นเป็นช่องทางสำคัญในการหาประโยชน์จากข่าว จึงแจ้งออกไปให้รับรู้แบบสาธารณะ เพราะง่ายและถูกต้องที่สุดยิ่งคู่กรณีเป็นนักลงทุนชื่อดัง หรือธุรกิจใหม่อยู่ในกระแสยิ่งจุดติดความสนใจได้ง่าย หากสังเกตให้ดีหุ้นพวกนี้จะเคลื่อนไหวก่อนสักระยะ

 

หลังจากนั้นนั้นก็แจ้งข่าว เพื่อลากรายย่อยเข้ามาช่วยดันราคา เพื่อที่ตัวเจ้าของจะได้ชิงทำกำไรก่อน แล้วค่อยประกาศล้มดีลจะว่าไปก็เหมือนกับการปั่นหุ้นโดยสุจริตนั่นแหล่ะ" แหล่งข่าวผู้บริหาร กล่าว เช่นเดียวกับ นักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง ที่ระบุว่า "รายย่อยที่ชอบเล่นหุ้นจากข่าวจะเสียเปรียบเจ้ามือเสมอ เพราะกระบวนการมันเกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่แจ้งข่าว

การแจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่าสามารถแจ้งยกเลิกได้ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การเจรจาไม่ลงตัว ศึกษาแล้วไม่คุ้มทุน หรือความไม่พร้อมอื่นใดๆก็ตาม ที่จริงก็มีการออก

พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯใหม่ เพื่อควบคุมการให้ข้อมูลข่าวสารแล้ว ก็ควรจะมีการพิจารณาควบคุมการให้ข่าวสารลักษณะนี้ด้วย ต้องให้ บจ. นั้นๆ นำเสนอรายละเอียดของแต่ละดีลอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่สักแต่แจ้งเท่านั้น มิเช่นนั้นผู้ที่คิดมิชอบก็จะใช้ช่องทางนี้ในการหาผลประโยชน์ นักลงทุนเองก็ต้องพิจาณาข้อมูลให้รอบคอบ ควรประเมินจากพื้นฐานและราคาหุ้นที่เกิดขึ้นว่าเหมาะสมหรือไม่ มิใช่ซื้อเพราะเห็นว่ามีเสี่ยคนนั้นจะเข้ามาถือหุ้น อันนี้ถือว่าผิดหลักการลงทุน และจะต้องตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป" นักลงทุนรายใหญ่ กล่าว

 

ขอบคุณแหล่งข่าว : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย


Fin-trading