KBank คาดเงินบาทปี 66 เป็นทิศทางแข็งค่าหลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย ท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจไทย
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ว่า มุมมองต่อค่าเงินบาทนั้น กสิกรไทยได้ปรับเป้าหมายเงินบาทปี 65 เป็น 35.25 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิมที่คาด 37.50 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากตลาดการเงิน มีความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยช้าลง และมีลุ้นว่าอาจจะต้องปรับดอกเบี้ยลงภายในปีหน้า ซึ่งการคาดการณ์นี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง ทำให้คาดว่าเงินบาทปี 66 มีทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยให้กรอบที่ 33.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์
"ช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้เงินบาทอาจแกว่งตัว แต่อย่างไรก็ตามเงินบาทคงไม่ได้แข็งค่าแบบก้าวกระโดด"
นายกอบสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทปี 66 คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่คาดว่าจะดีขึ้น แม้ว่าทั่วโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยคาดว่าปีหน้านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาไทยถึง 20 ล้านคน โดยเฉพาะความหวังจากนักท่องเที่ยวจีน
ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยก็จะดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและแรงกดดันที่ลดลงจากราคาพลังงาน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 66 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกดดัน และเพื่อลดช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างธปท. และเฟดลง โดยในสัปดาห์หน้า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% และคงจะปรับดอกเบี้ยนโยบายไปถึง 1.75%
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ เฟดได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปีหน้า ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า
ทางฝั่งประเทศจีน อาจเลื่อนการเปิดประเทศออกไป เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศสูงขึ้น นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ก็กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่อการส่งออกของไทย รวมไปถึงยังมีความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองที่ยังต้องเฝ้าระวัง
"มีโอกาสน้อยมากที่เงินบาทมีโอกาสแตะ 40.00 บาทต่อดอลลาร์ หรือแตะ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ เหมือนช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้มองว่าค่าเงินที่เหมาะสมสำหรับปีหน้าคือ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหลักและปัจจัยเดียวของเงินบาท โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งจะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ติดลบไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวที่เข้ามามากเกินไป อาจทำให้เงินบาทแข็งค่ามาก จึงอาจต้องมีการออกมาตรการ เช่น เรื่องการส่งออก"