ห้องเม่าปีกเหล็ก

BBL คาด แจกปันผล 4.57 บาท

โดย Edrink
เผยแพร่ :
156 views

BBL ผู้นำด้านสินเชื่อธุรกิจ

คาดปี 65 แจกปันผล 4.57 บาท ยีลด์เกือบ 3%

 

.

หุ้นธนาคารมักติดอยู่ในโผหุ้นที่จ่ายปันผลดี ซึ่งก่อนหน้า Wealthy Thai เคยนำเสนอข้อมูลการจ่ายเงินปันผลของหุ้นธนาคารอย่าง TISCO และ KKP ไปแล้ว วันนี้จึงเป็นคิวของ BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ปันผลดีได้ไม่แพ้กัน

.

โดย BBL เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ธุรกิจ ทั้งขนาดใหญ่ SME ตลอดจนฐานลูกค้าบุคคล ซึ่งมีสาขาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย และมีเครือข่ายในต่างประเทศครอบคลุมเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก ทั้งนี้ในรอบ 1 ปี BBL มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 2.20% และติดอยู่ในลำดับที่ 30 ของดัชนี SETHD

.

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่ปี 2561 ถึง 23 ก.ย. 2565 บริษัทจ่ายปันผลไปทั้งหมด 9 ครั้ง รวมเป็นเงิน 25.50 บาท ปัจจุบัน BBL มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 303,506.02 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 10.82 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ม.ค. 66) โดยราคาหุ้นวันที่ 10 ม.ค. 66 อยู่ที่ 159 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1 ปี 26.19%

.

ขณะที่นักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดการณ์ว่าทั้งปี 2565 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลที่ 4.57 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 2.98% ส่วนปี 2566 คาดจะจ่ายเงินปันผลที่ 4.81 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.13%

.

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงาน BBL นับเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคารที่นักวิเคราะห์หลายสำนักให้คำแนะนำ ซื้อ โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คาดวันที่ 19-20 ม.ค. 2566 BBL จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 8.21 พันล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 7% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมปี 2565 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.90 หมื่นล้านบาท เติบโต 9.72% จากปีก่อน

.

ส่วนปี 2566 ฝ่ายวิเคราะห์คาดจะมีกำไรสุทธิที่ 3.06 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2565 เพราะสินเชื่อรวมขยายตัวต่อเนื่องจากฐานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของ yield on loan จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียม Bancassurance และค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้น

.

ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายที่ 180 บาท และคงมุมมอง BBL เป็น Top Pick ของกลุ่มธนาคารขนาดกลางและใหญ่ เพราะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น มีความเป็นผู้นำด้านสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งจะได้อานิสงส์โดยตรงจากการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในไทยและอินโดนีเซีย (Permata) รวมถึงมีความแข็งแกร่งในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ และความเพียงพอของสำรองมากสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่

 

 


Edrink