ห้องเม่าปีกเหล็ก

เมื่อ "ส่งออก" อ่อนแรงลง

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
65 views

เมื่อ "ส่งออก" อ่อนแรงลง "ดร.กอบศักดิ์" แนะเร่ง 3 เครื่องยนต์ใหม่เศรษฐกิจไทย

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยมุมมองผ่านท่องเศรษฐกิจกับดร.กอบในเฟสบุ๊ค ว่าถึงเวลาหาเครื่องยนต์ใหม่ให้เศรษฐกิจไทย !!!

เมื่อวาน สภาพัฒน์ได้แถลงตัวเลข GDP Q1 ปี 65 ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจหลายเรื่อง

- YoY% เศรษฐกิจขยายตัว 2.2% ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 1.8% เมื่อไตรมาสก่อนหน้า

- MoM% เศรษฐกิจขยายตัว 1.1% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 1.8% เมื่อไตรมาสก่อนหน้า

ข้อมูลชุดนี้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยภายใต้ความท้าทายของโอมิครอน และช่วงแรกของสงครามยูเครน-รัสเซีย และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ยังพอไปได้ แต่แรงส่งทางเศรษฐกิจแผ่วลงเล็กน้อย

ดังนั้น สภาพัฒน์จึงได้ปรับลดอัตราการเจริญเติบโตปี 65 ลงประมาณ 1% จากความผันผวนต่างๆ ที่เกิดขึ้นไว้ที่ 2.5-3.5% จาก 3.5-4.5% และประมาณตัวเลขเงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ 4.2% จาก 1.2% เมื่อปีก่อนหน้า 

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจจริงๆ ของรายงานดังกล่าว อยู่ที่ใส้ในของตัวเลข 

ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความจำเป็น ที่จะต้องหาแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทยในปี 65 เพื่อจะฟันฝ่าปัญหาของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และอาจจะลุกลามมากขึ้น ในระยะต่อไป

จากกราฟด้านล่าง จะเห็นได้ว่า เครื่องยนต์เศรษฐกิจบางตัวกำลังแผ่วลงจากปีก่อนหน้า

- การส่งออก ขยายตัวลดลงจาก 14.9% ในปี 64 เหลือ 10.2% ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 65

- การผลิตสินค้าภาคอุตสาหกรรม ลดลงจาก 4.9% เหลือ 1.9%

- การลงทุนรวมรัฐเอกชน ลดลงจาก 3.4% เหลือ 0.8% 

- ภาคก่อสร้าง ลดลงจาก 2.7% เหลือ -5.5%

โดยภาคการส่งออกและการผลิตภาคอุตสหากรรม เป็นผลจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหมายความต่อไปว่า การส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของไทย ที่เราพึ่งพามา 2 ปี กำลังหมดแรง

การลงทุนรัฐเอกชน และภาคการก่อสร้าง กำลังชะลอตัวลงเช่นกัน 

ส่วนที่พอไปได้ดี ก็คือ

- การบริโภค ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 3.9%

- ภาคการเกษตร ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 4.1%

- การส่งออกบริการ (ท่องเที่ยว) จาก -23.1% เป็น +30.7%

- ที่พักแรมและร้านอาหาร จาก -14.4% เป็น +34.1%

- การขนส่งและเก็บสินค้า จาก -2.9% เป็น +4.6%

สะท้อนการบริโภคที่ดีขึ้นจากปีที่แล้ว จากฐานต่ำเพราะเรามีการแพร่ระบาดของโควิด 3 รอบ ภาคการเกษตรที่ได้รับอานิสงค์ที่ดี จากราคาสินค้าเกษตรโลก และจากภาคการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมา ส่งผลดีต่อเนื่องไปยังโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และภาคขนส่ง 

ทั้งหมดมีนัยยะต่อไปว่า เราคงต้องเริ่มคิดหาแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจไทย ก่อนที่จะสายเกินไป 

โดยเปลี่ยนเครื่องยนต์ จากปีที่แล้วที่เราพึ่งพาการส่งออก การใช้จ่ายบริโภคในประเทศ และการเที่ยวในประเทศของคนไทย ไปยังเครื่องยนต์ใหม่ ที่จะมาช่วยภาคส่งออก ซึ่งน่าจะขยายตัวแผ่วลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปีก่อนหน้า 

เครื่องยนต์ชุดใหม่ของเราน่าจะมาจาก

- การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่ขยายตัวอย่างน่าพอใจ ซึ่งจากตัวเลขต่างๆ คิดว่าปีนี้น่าจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 5-6 ล้านคน และจะทำให้ภาคท่องเที่ยวกลับมาได้ดีขึ้นมากในช่วงปลายปี

- การลงทุนของรัฐเอกชน ที่ต้องเร่งรัดโครงการโครงสร้างพื้นฐานให้มากขึ้น และเร่งให้โครงการใน EEC เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา และรถไฟสามสนามบิน เริ่มต้นลงทุน 

- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่กำลังกลับมาอีกรอบ หลังจากการเดินทางที่เปิดขึ้น ทำให้การตกลงทางธุรกิจมีความสะดวกยิ่งขึ้น 

"หากเราสามารถติดเครื่องยนต์ชุดใหม่ได้ทั้ง 3 ด้าน เศรษฐกิจไทยก็จะมี Momentum เพียงพอที่จะรับกับวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังก่อตัวขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลกครับ"

 


DAVINCI