ห้องเม่าปีกเหล็ก

PLOY ได้ฤกษ์เข้าเทรดพรุ่งนี้ กูรูชี้เป้า

โดย poomai
เผยแพร่ :
162 views

POLY ได้ฤกษ์เข้าเทรดวันแรก 16 พ.ย.นี้ กูรูให้เป้าสูงสุด 8.50 บาท/หุ้น

"โพลีเน็ต (POLY)" พร้อมเข้าเทรด SET วันแรก (16 พ.ย.) เตรียมนำเงินลงทุนโครงการขยายโรงงาน ลงทุนเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิต โชว์ผลงาน 9 เดือนปีนี้ กำไร 122.48 ลบ.พุ่ง 60% โบรกฯให้ราคาเหมาะสมช่วง 8.24-8.50 บาทต่อหุ้น คาดใน 3 ปี (65-67) กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 26%

.

*** ตลท.รับ"โพลีเน็ต (POLY)" เข้าเทรด SET วันแรก 16 พ.ย.นี้

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ.โพลีเน็ต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “POLY” ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565

.

POLY ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาง พลาสติก และซิลิโคนขึ้นรูป แบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบผลิตแม่พิมพ์ คิดค้นพัฒนาสูตรการผลิต ตลอดจนขึ้นรูปชิ้นงานตามความต้องการของลูกค้าและการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) เช่น ยางกันฝุ่น หน้ากากช่องแอร์ และวาล์วซิลิโคน เป็นต้น โดยมีกลุ่มลูกค้า

หลักเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Tier-1

.

นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงมากขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) เช่น ส่วนประกอบซิลิโคนชุดช่วยหายใจ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ช่วยในการผ่าตัดต่าง ๆ และ อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) เช่น ถุงซิลิโคนใส่อาหาร ซีลยางบรรจุภัณฑ์ ฝากรองชา และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

.

บริษัท มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 330 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน 2565 ในราคา

หุ้นละ 6.80 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,060 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 20.4 เท่า โดยมีบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

*** นำเงินลงทุนขยายโรงงาน

นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น POLY จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้ POLY ก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นนวัตกรรม และมีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบครบวงจร (One-Stop Services) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม

.

ตลอดจนมุ่งแสวงหาและต่อยอดโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve) การระดมทุนในครั้งนี้ จึงเป็นการเสริมความแข็งแรงด้านเงินทุนให้บริษัทฯ ใช้สำหรับลงทุนในโครงการขยายโรงงาน และลงทุนเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 16.6% ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนในระยะยาว

.

บริษัท มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงาน แผนการลงทุน ฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจและความเหมาะสมอื่น ๆ รวมถึงการบริหารงานของบริษัทในอนาคต

.

มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มเหลารัตนา ถือหุ้นรวม 73.3% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

.

*** อวดกำไร Q3/65 พุ่ง 65% หนุน 9 เดือน กำไรโต 60%

บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 43.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.03% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.63 ล้านบาท งวด 9 เดือน ปี 65 มีกำไรสุทธิ 122.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.31 ล้านบาท

.

ในงวด 9 เดือน ปี 65 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนคงที่มีอัตราส่วนที่ลดลง ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านบุคลากร ทำให้อัตรากำไรสุทธิโดยรวมสูงขึ้น

.

*** โบรกฯให้มูลค่าเหมาะสมช่วง 8.24-8.50 บาทต่อหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 66 ที่ 8.24 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี PE multiple ที่ระดับ 19X ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของกลุ่มยานยนต์ โรงพยาบาลและบรรจุภัณฑ์ โดยเป็นมูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 66 ซึ่งเป็นปีแรกที่จะได้รับผลดีจากคำสั่งซื้อใหม่ที่เข้ามาเต็มปีในส่วนของงานชิ้นส่วนยานยนต์

.

*** ประเมินกำไรอยู่ในช่วงขาขึ้นได้ตลอด 3 ปีข้างหน้า

โดยคาดว่าผลประกอบการของ POLY จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า (65-67) หลังจากรับรู้คำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้ากลุ่มยานยนต์ประเภทพลาสติกและลูกค้าสินค้าอุปโภคประเภทถุงซิลิโคนใส่อาหาร โดยคาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 26% จากระดับ 121 ล้านบาท ในปี 64 เป็น 159 ล้านบาท ในปี 65 200 ล้านบาท ในปี 66 และ 242

ล้านบาท ในปี 67 ขณะที่รายได้คาดไว้ที่ 1,148 ล้านบาท ในปีนี้ ก่อนเพิ่มเป็น 1,628 ล้านบาท ในปี 66

.

ฝ่ายวิจัย บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินมูลค่าโดยใช้ P/E Multiple ที่ระดับ 20 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ 8.50 บาท เลือกใช้วิธี P/E ในการประเมินมูลค่าเหมาะสม โดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ POLY ทีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ซึ่งอยู่ในกลุ่มยานยนต์และสินค้าอุตสาหกรรม โดยคัดเลือกเฉพาะบริษัทที่มีกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงไปยังอุตสาหกรรมอื่นฯ ที่มีการเติบโตสูงกว่ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เช่นเดียวกับ POLY อย่าง TRV, PJW (ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ทางการแพทย์)

***********************************


poomai