ฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไป!

ฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไป! :

ฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไปน่าจะมีสาเหตุมาจาก " การทํานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายแบบสุดๆ " ไปทั่วทั้งโลก การที่โลกทั้งใบมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายนั้น หมายถึง " การที่เงินกู้มีดอกเบี้ยที่ตํ่าๆ และการเข้าถึงเงินกู้แบบง่ายๆ " วัตถุประสงค์ของการทํานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายนั้น " ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นไปแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น " และไม่มีความจีรังยั่งยืนอะไร! สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นประจักษ์พยานให้เห็นในอดีตก็คือ การตกตํ่าครั้งใหญ่ ( The Great Depression ) ในปี ค.ศ 1929 (  Down Jones ลดลง -89% ) , วิกฤติต้มยํากุ้ง ในปี ค.ศ 1997 ( Set Index ลดลง -89% ), วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ในปี ค.ศ 2008 ( Down Jones ลดลง -54% )  และฟองสบู่ดอดคอม ในปี ค.ศ 2000 ( Down Jones ลดลง -39% )  เป็นต้น ที่ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากการทํานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายแบบสุดๆ ทั้งนั้น!

แต่ก่อนที่จะเกิดฟองสบู่โลกแตก ฟองสบู่จะเกิดขึ้นก่อน และกําลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่ปั่นตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นไปในจุดที่สูงสุดสุด ก่อนที่จะมีสภาวะล่มสลายตามมาทีหลัง

ผู้โพสต์ได้แสดงความคิดเห็นตั้งแต่หลายปีก่อนและยังคงความคิดเห็นที่เหมือนเดิมว่า จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายไปทั่วโลกในครั้งนี้  " Down Jones น่าจะปรับตัวขึ้นไปที่ 50,000 จุด และ Set Index ก็น่าจะปรับตัวขึ้นไปที่ 5,000 จุด ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แล้วหลังจากนั้นจึงจะเกิดฟองสบู่โลกแตก โดย Down Jones น่าจะปรับตัวลงมาจาก 50,000 จุด เหลือเพียงแค่ 18,333 จุด ส่วน Set Index ก็น่าจะปรับตัวลงมาจาก 5,000 จุด เหลือเพียงแค่ 1,510 จุด ในช่วงสิ้นปี พ.ศ 2564 และฟองสบู่โลกแตกครั้งนี้ น่าจะเป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยประสบมา เพราะหนี้สินที่เข้ามาเกี่ยวข้องที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของโลก นั่นเอง "

หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives  ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook

ที่  https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/