BANPU ปัจจัยบวกมาเต็มที่!! กำไรครึ่งปีอาจแตะ 2 หมื่นล้านบาท โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.80 บาท
หากย้อนกลับไปช่วงไตรมาส 1/65 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU หนึ่งในหุ้นยอดนิยมของนักลงทุน ได้รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10,264.21 ล้านบาท ถือว่าทำได้มากกว่าทั้งปี 2564 ที่ทำได้ 9,851.80 ล้านบาท แต่ล่าสุดงวดไตรมาส 2/65 ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิจะออกมาโดดเด่นเช่นกันที่ระดับ 10,000 ล้านบาท หากเป็นไปตามคาดการณ์เท่ากับว่ากำไรสุทธิในครึ่งปีแรกของปี 2565 จะอยู่ที่ระดับสูงถึง 20,000 ล้านบาท
โดยไล่เรียงจากมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาระบุว่า คาดกำไรสุทธิ ในไตรมาส 2/65 ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการซื้อกิจการ XTO
นอกจากนี้ยังคาดผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 65 จะดีกว่าครึ่งปีแรกจากการรวมผลการดำเนินงานของ XTO เข้ามาในงบรวม (ทำให้ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น 30%), ปริมาณยอดขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นทั้งจาก ITM และ CEY, และผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงลดลงเนื่องจากราคาถ่านหิน และก๊าซเมื่อสิ้นงวดไตรมาส 2 อยู่ในระดับสูง จึงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 17 บาท
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาด BANPU จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ในระดับสูงที่ 1.14 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 7.6 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อหักผลขาดทุนจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงและอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่ากำไรปกติจะกระโดดเพิ่มเป็น 1.59 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 69%จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 447%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญอยู่ที่ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้น, ผลขาดทุนจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่ลดลง, และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น พร้อมกำไรสุทธิที่ดีขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้าโดยส่วนมากจะมาจากโรงไฟฟ้าหงสา (HPC) ด้วยราคาที่ปรับขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณขายก๊าซและถ่านหินที่สูงขึ้น คิดว่ากำไรปกติรายไตรมาสจะโตอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาส 2-4/65 แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 18.80 บาท
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ของ BANPU ที่ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 583% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 12%จากไตรมาสก่อน โดยกำไรสุทธิที่ลดลงเชิงไตรมาสก่อนคาดจะมาจากการไม่มีกำไรพิเศษจำนวน 5.9 พันล้านบาท จากการขายหุ้น Sunseap และผลขาดทุนที่มากขึ้นจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาก๊าซและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น 47%จากไตรมาสก่อน เป็น 7.0 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2565 จะเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เป็น 1.43 หมื่นล้านบาท จากราคาถ่านหิน และราคาก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอย่างมาก แม้ปริมาณการผลิตถ่านหินค่อนข้างต่ำก็ตาม ดังนั้นกำไรครึ่งแรกปีนี้คาดจะอยู่ที่ 1.93 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 575%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี 2565 ที่คาดจะรายงานกำไรสุทธิ 41,380 ล้านบาท จึงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2566 สูงขึ้นเป็น 15.10 บาท