ห้องเม่าปีกเหล็ก

สรุปข่าว เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

โดย Khal
เผยแพร่ :
185 views

สรุปข่าว #เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

โดยมีหัวข้อข่าวที่น่าสนใจดังนี้

.

 

ศก.67 รวมแจกเงินโต 3.8%

 

รื้อภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

ไทยเหลื่อมล้ำรายได้สูงสุดในเอเชีย

.

ติดตามอ่านรายละเอียดตามนี้ได้เลยครับ

.

 

ประเด็นเชิงบวก

.

ธุรกิจอาหารสัตว์ไทยสุดปัง วิคแทมจัดงานรองรับตลาด | ไทยโพสต์

นายเซบาส ฟาน เดน เอนเด ผู้จัดการทั่วไป วิคแทม อินเตอร์เนชัลแนล ตัวแทนจากวิคแทม เอเชีย เปิดเผยว่า ตลาดผลิตและแปรรูปอาหารสัตว์ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก เป็นตลาดที่เติบโตเร็วและครองตลาดโลก รวมถึงยังมีผู้ผลิตอาหารสัตว์และซัพพลายเออร์เครื่องจักรที่มีจำนวนมากที่สุด เนื่องมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของเมือง อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงได้จัดแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนา วิคแทม เอเชีย และงานเฮลท์ แอนด์ นิวทริชัน เอเชีย ขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค รองรับความต้องการของตลาด

.

 

ประเด็นข่าวทั่วไป

.

ศก.67 รวมแจกเงินโต 3.8% | เดลินิวส์

นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี โดยในการประชุมครั้งนี้ กรรมการ 1 ท่านลาประชุม และปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 66 จะขยายตัว 2.4% ปรับลดจากเดิม 2.8% และในปี 67 จะขยายตัวได้ 3.2% หากรวมผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต อัตราการขยายตัวในปี 67 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8% ลดลงจาก 4.4% ที่ประเมินไว้ในการประชุม ครั้งก่อน และในปี 68 จีดีพีไทยจะขยายตัว 3.1%

.

รื้อภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ | เดลินิวส์

จูงใจนทท.ใช้จ่ายในไทยเพิ่ม นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะหารือร่วมกับกรมสรรพสามิตและ กรมศุลกากร เพื่อเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไปเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยกรมสรรพสามิต ต้องไปปรับโครงสร้างภาษีให้สอดคล้อง เพื่อให้ราคาเครื่องดื่มในประเทศจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยจับจ่ายซื้อสินค้าเครื่องดื่มในประเทศ ยกตัวอย่าง เช่น จากเดิมนักท่องเที่ยว 1 คน มีสิทธิซื้อเครื่องดื่ม 1 ลิตร จากร้านค้าดิวตี้ฟรีขาเข้า แล้วนำมาดื่มในประเทศ เปลี่ยนเป็นมาซื้อเครื่องดื่ม ตามร้านค้าในประเทศ ซึ่งจะสร้างเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจด้วย

.

สั่งตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค | เดลินิวส์

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ว่า การซื้อขายออนไลน์เป็นดาบสองคมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งยังเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการหลอกลวง สร้างความเสียหายแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง จึงต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เป็นต้น เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงขอให้ สคบ. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ เพื่อดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคในคดีที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเร่งรัดให้สคบ. เร่งดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว

.

ไทยเหลื่อมล้ำรายได้สูงสุดในเอเชีย | ไทยรัฐ

นายฟาบริชิโอ ซาร์โคเน ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย ได้เปิดเผยรายงาน "ปิดช่องว่าง:ความเหลื่อมล้ำและงานในประเทศไทย" ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 ไทยมีความคืบหน้าการลดช่องว่างระหว่างคนที่ร่ำรวยที่สุดและยากจนที่สุดเป็นอย่างมาก แต่ได้ชะลอตัวลงนับตั้งแต่ปี 56 โดยปี 64 ไทยมีสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini coefficien) ของรายได้ ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐานความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ อยู่ที่ 43.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของความไม่เสมอภาคของรายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก การกระจุกตัวของรายได้ในครัวเรือนที่ร่ำรวยที่สุดนั้นสูงเป็นพิเศษ

.

"คลัง" เด้งรับยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า | ไทยรัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.66 จะประชุมร่วมกับกรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เพื่อเร่งดำเนินการมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยในส่วนของกรมศุลกากรจะต้องออกประกาศการยกเลิกการจัดตั้งร้านค้าดิวตี้ฟรีขาเข้าทุกสนามบิน เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาซื้อสินค้าในประเทศ ซึ่งได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

ช็อก! ขึ้นค่าไฟรับปีใหม่ | ไทยรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่าเอฟทีขายปลีกสำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้น 69 สตางค์ต่อหน่วย จากปัจจุบันงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย

.

ปี'67ได้ลุ้น'ทองไทย'แตะ35,000 | มติชน

กูรูชี้ยังไม่สิ้นสุดทางขึ้นดบ.มะกันหนุน ปี'66สร้างราคาออลไทม์ไฮ4ครั้งติด กูรูชี้ทองคำยังไม่สิ้นสุดทางขึ้น ลุ้นปี'67 ราคาพุ่งแตะ 35,000 บาท หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ 34,100 บาท จากปัจจัยหลักแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐขาลง รอบ 11 เดือนปี'66 ทองไทยสร้างนิวไฮเป็นประวัติการณ์แล้ว 4 ครั้ง

--

 

 


Khal