ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตี๋โบ๊โผล่หัวคุย

โดย Turbo
เผยแพร่ :
68 views

สีจิ้นผิงระบุ ‘เศรษฐกิจโลกอยู่ ณ ทางแยกอีกครั้ง’ พร้อมยื่น '4 ข้อเสนอ 5 มาตรการ' ต่อที่ประชุม G20 เพื่อร่วมมือผลักดันเศรษฐกิจโลก
.
วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเรียกร้องให้ประเทศกลุ่มจี20 (G20) สำรวจหาแรงขับเคลื่อนของการเติบโต พัฒนาการบริหารปกครองในเวทีโลก ขจัดคอขวดของการพัฒนา และจัดการกับปัญหาความแตกต่างอย่างเหมาะสม
.
สีจิ้นผิงยังให้คำมั่นในที่ประชุมสุดยอด G20 ครั้งที่ 14 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ว่าจีนจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ขยายการนำเข้าสินค้า อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการต่างชาติ และผลักดันการเจรจาข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้า
.
เขาระบุว่าเศรษฐกิจโลกหวนกลับมาอยู่ ณ ทางแยกอีกครั้งหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อน และที่ประชุม G20 มีหน้าที่วางแผนรับมือให้กับเศรษฐกิจโลกและการบริหารปกครองระดับโลกในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดและนำความหวังมาสู่ประชาชน
.
สีจิ้นผิงกล่าวว่าสมาชิกกลุ่ม G20 ควรจะต้องเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมายและมีบทบาทในตลาด รวมไปถึงปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขการพัฒนาของพลังการผลิต เดินตามกระแสหลักแห่งพัฒนาการ โอบรับโอกาสการพัฒนาด้วยการเปิดกว้างยิ่งขึ้น และให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งขึ้นเพื่อผลลัพธ์ที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน เช่นนั้นแล้วโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจจึงจะดำเนินไปในวิถีทางที่ถูกต้อง
.
สีจิ้นผิงขอให้สมาชิกกลุ่ม G20 ให้ความสำคัญกับการแบ่งปันผลประโยชน์และการพัฒนาในระยะยาว สร้างสันติภาพและความรุ่งเรืองให้โลกและทำให้ประชาชนทั่วโลกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าพึงพอใจ
.
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจีนจึงผลักดันข้อเสนอ 4 ประการดังต่อไปนี้
.
ประการที่ 1 เขาขอให้กลุ่ม G20 ยึดมั่นในการปฏิรูปและยึดมั่นต่อนวัตกรรม สำรวจหาแรงขับเคลื่อนเพื่อการเติบโต 
.
“เราต้องเดินหน้าการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างหนักแน่นและทุ่มเทเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างมีคุณภาพสูงผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการเชื่อมต่อ ยกระดับความมั่นคงทางสังคม รวมไปถึงมาตรการอื่นๆ” สีจิ้นผิงกล่าว พร้อมเสริมว่าในขณะเดียวกันประเทศสมาชิกต้องสร้างสภาพแวดล้อมทางตลาดที่ดี เคารพ ปกป้อง และส่งเสริมนวัตกรรม สนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านนวัตกรรม
.
ประการที่ 2 สีจิ้นผิงขอให้กลุ่ม G20 ก้าวทันยุคสมัยและพัฒนาการบริหารปกครองในเวทีโลก
.
“เราควรจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการค้าแบบพหุภาคีและดำเนินการปฏิรูปที่จำเป็นต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อทำให้องค์การการค้าโลกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในด้านการนำนโยบายด้านตลาดแบบเปิดและการส่งเสริมการพัฒนาไปปฏิบัติจริง” สีจิ้นผิงกล่าว
.
เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางการเงินและทำให้สถาปัตยกรรมทางการเงินมีบทบาทที่ดียิ่งขึ้น
.
นอกจากนี้ เขายังขอให้กลุ่ม G20 ปฏิบัติตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ด้วยการพัฒนาด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการปกครองแบบดิจิทัล
.
ประการที่ 3 ประธานาธิบดีจีนส่งเสริมให้กลุ่ม G20 รับมือกับความท้าทายและขจัดคอขวดของการพัฒนา
.
“ข้อเสนอของจีนว่าด้วยการสร้างแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทรัพยากรให้มากยิ่งขึ้น เสริมสร้างการเชื่อมต่อ ปลดปล่อยแรงขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนา กระจายตลาด และดึงประเทศหรือภูมิภาคต่างๆ เข้ามาสู่กระแสโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น” สีจิ้นผิงกล่าว 
.
ประการที่ 4 สีจิ้นผิงขอให้กลุ่ม G20 เชิดชูเจตนารมณ์ของความเป็นหุ้นส่วนและแก้ไขปัญหาความแตกต่างอย่างเหมาะสม
.
“ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 ต่างอยู่ในระดับการพัฒนาประเทศที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะมีความแตกต่างด้านผลประโยชน์และมีความเห็นไม่ตรงกัน” เขากล่าว และเน้นย้ำว่ากุญแจสำคัญคือการปรึกษาหารือกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียม มองหาจุดร่วมในขณะที่สงวนความแตกต่าง บริหารจัดการความหลากหลายและขยายฉันทามติด้วยทัศนคติที่เคารพและไว้วางใจซึ่งกันและกัน
.
“เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในสถานะที่มีเสถียรภาพและมีแรงผลักดันที่ดีต่อการเติบโตของประเทศ” สีจิ้นผิงกล่าวและให้คำมั่นว่าจะมีมาตรการต่างๆ เพื่อเปิดกว้างให้มากยิ่งขึ้นและมุ่งสู่การพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
.
มาตรการแรก จะมีการเปิดตลาดจีนให้กว้างยิ่งขึ้น โดยในปี 2019 นี้จะมีการเปิดเผยรายการประเภทกิจการต้องห้าม (Negative List) ฉบับใหม่สำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดกว้างด้านเกษตรกรรม เหมืองแร่ การผลิต และบริการ
.
“จีนจะเปิดเขตการค้าเสรีนำร่องแห่งใหม่อีก 6 แห่ง รวมถึงเปิดโซนใหม่ในเขตการค้าเสรีนำร่องเซี่ยงไฮ้ และเร่งการสำรวจตรวจสอบเพื่อสร้างท่าเรือการค้าเสรีในมณฑลไห่หนาน” สีจิ้นผิงกล่าว
.
มาตรการที่ 2 จะมีนโยบายที่ดียิ่งขึ้นเพื่อขยายการนำเข้าสินค้า โดยจะลดระดับการเรียกเก็บภาษีสินค้าโดยรวม พยายามขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) และลดทอนค่าใช้จ่ายเชิงระบบในการนำเข้าสินค้า รวมถึงจะจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 2 ให้ประสบความสำเร็จ
.
มาตรการที่ 3 จะพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ด้วยกรอบกฎหมายใหม่สำหรับผู้ลงทุนต่างชาติที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า จีนจะมีกลไกด้านการชดใช้ความเสียหายในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและทำให้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งมีความเข้มงวดยิ่งขึ้นในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
.
มาตรการที่ 4 จะมีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับผู้ลงทุนต่างชาติทั้งหมด โดยจะยกเว้นข้อจำกัดต่างๆ นอกเหนือจาก Negative List ให้กับผู้ลงทุนต่างชาติ รวมถึงจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมต่อธุรกิจทุกประเภทที่จดทะเบียนในประเทศจีนในช่วงภายหลังจากการเข้ามาจัดตั้งการลงทุน (post-establishment) และจัดตั้งระบบการร้องทุกข์ให้กับบริษัทต่างชาติ
.
มาตรการที่ 5 จะทุ่มเทผลักดันการเจรจาทางการค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยจะผลักดันให้มีข้อสรุปของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยเร็ว และเร่งเจรจาข้อตกลงการลงทุนระหว่างจีน-สหภาพยุโรป (EU) รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้
.
สีจิ้นผิงเน้นย้ำว่าจีนมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเดินตามวิถีทางของตนเองและจัดการกิจการของตนเองได้อย่างดี โดยจีนจะทำงานด้วยจิตวิญญาณแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความร่วมมือแบบวิน-วินกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และจะเดินหน้าอย่างไม่ย่อท้อเพื่อไปสู่อนาคตอันสว่างไสวยิ่งขึ้นของเศรษฐกิจโลก
.
.
ติดตามอ่านข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่https://www.xinhuathai.com/

ในภาพอาจจะมี 1 คน
 
 

ไม่เป็นปฏิปักษ์! สีจิ้นผิง-ทรัมป์ประชุมนอกรอบ G20 เห็นพ้อง 'เจรจาการค้าใหม่' บนพื้นฐานความเท่าเทียม
.
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นพ้องให้เริ่มการหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ใหม่อีกครั้งบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการเคารพซึ่งกันและกัน
.
ฝ่ายสหรัฐฯ ระบุว่าจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มเติมจากจีนอีก โดยคณะเจรจาด้านเศรษฐกิจและการค้าของทั้ง 2 ประเทศจะเดินหน้าหารือในประเด็นดังกล่าวต่อไป
.
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองพบปะกันในการประชุมนอกรอบของการประชุมจี 20 (G20) ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
.
ช่วงแรกเริ่มของการประชุม สีจิ้นผิงกล่าวรำลึกถึง “การทูตปิงปอง” ซึ่งเป็นการแข่งขันปิงปองเพื่อมิตรภาพระหว่างจีน-สหรัฐฯ เมื่อปี 1971 ที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น และจากนั้น 8 ปีให้หลังจีน-สหรัฐฯ ก็ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1979
.
สีจิ้นผิงกล่าวว่า แม้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงในสถานการณ์ระหว่างประเทศและในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ในช่วงเวลา 40 ปีที่ผ่านมา “แต่ความจริงพื้นฐานประการหนึ่งยังคงไม่เปลี่ยนไป นั่นก็คือจีนและสหรัฐฯ ต่างได้ประโยชน์จากความร่วมมือและเสียประโยชน์จากการปะทะ”
.
“ความร่วมมือและการเจรจาย่อมดีกว่าความขัดแย้งและการปะทะ” สีจิ้นผิงกล่าวกับทรัมป์ พร้อมระบุว่าจีนยินดีจะเดินหน้าเจรจาทางการค้าและแก้ปัญหาเรื่องความแตกต่างกับสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี การเจรจาจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและความเคารพซึ่งกันและกัน 
.
ฝ่ายทรัมป์ระบุว่าเขาไม่เป็นปฏิปักษ์กับจีน เขาหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะพัฒนาไปในทางที่ดี และสหรัฐฯ จะเดินหน้าสนับสนุนนโยบายจีนเดียวต่อไป 
.
.
ติดตามอ่านข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://www.xinhuathai.com/

ในภาพอาจจะมี 2 คน
 
 
 

บ้านใหม่ไฉไลกว่าเดิม! นโยบายแก้จนช่วยประชาชนในยูนนานมีชีวิตดียิ่งขึ้น
.
ชมสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ลี่ซู่ ซึ่งโยกย้ายจากพื้นที่หุบเขาอันไม่เหมาะต่อการอยู่อาศัยสู่ชุมชนแห่งใหม่ในตำบลต้าซิงตี้ แคว้นปกครองตนเองนู่เจียงลี่ซู่ มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
.
มณฑลยูนนานถือเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่นของกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มของจีน อาทิ ลี่ซู่ จีนั่ว เต๋ออั๋ง ตู๋หลง และอื่นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมด 56 กลุ่มบนแผ่นดินจีน
.
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นได้ประกาศว่ากลุ่มชาติพันธุ์จีนั่ว ตู๋หลง และเต๋ออั๋ง หลุดพ้นจากความยากจนอย่างเป็นทางการ และคาดว่ากลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่เหลือจะหลุดพ้นจากความยากจนเช่นกันในปีนี้และปีหน้า

 
 
 à¹ƒà¸™à¸ à¸²à¸žà¸­à¸²à¸ˆà¸ˆà¸°à¸¡à¸µ สถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี สถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี ภูเขา, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และธรรมชาติ
ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังนั่ง
ในภาพอาจจะมี ภูเขา, สถานที่กลางแจ้ง และธรรมชาติ
 
 

Turbo