เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561 คุณศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ประกาศชะลอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพาออกไปอีก 3 ปี โดยจะให้ กฟผ.ใช้ระยะเวลาช่วงปี พ.ศ 2561 - 2563 จัดทํา EIA และ เปิดรับฟังความคิดเห็นชาวบ้าน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คู่ขนานกับการศึกษาโรงไฟฟ้าก๊าซจาก LNG นําเข้า
ทั้งนี้ การประกาศชะลอโครงการดังกล่าว น่าจะเป็นผลมาจากการที่นายกประยุทธฯ สั่งให้มีการชะลอโครงการเนื่องจากมีการประท้วงในสัปดาห์ก่อน
ผู้โพสต์ยังมีความเห็นเหมือนเดิมกับที่เคยให้ความเห็นไว้เมื่อหลายเดือนก่อนว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินของกฟผ.จะสร้างได้ในเมืองไทยก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั่วประเทศในอนาคต
สําหรับสัดส่วนของเชื้อเพลิงในการนําไปใช้ผลิตพลังงานทั่วโลกในปี พ.ศ 2559 เป็นดังนี้ คือ 1) นํ้ามัน 33% 2) ถ่านหิน 28% 3) ก๊าซธรรมชาติ 24% และ 4) อื่นๆ 15%
สําหรับถ่านหินที่นําไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าทั่วโลกมีสัดส่วน 42% ประเทศจีนมีสัดส่วน 70% ส่วนประเทศไทยมีสัดส่วน 18%
ความเห็นของผู้โพสต์ดังกล่าวข้างต้นเป็นความเห็นส่วนตัว และ ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องได้ เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญาณกรณีที่จะนําข้อมูลไปใช้ประกอบการลงทุนต่อไป
หมายเหตุ : ประทานโทษ ที่ผู้โพสต์มักจะให้ข้อมูลและความเห็นวนเวียนอยู่ใน 3 เรื่อง คือ ภาพตลาดโดยรวม ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และ ธุรกิจถ่านหิน โดยจะเป็นมุมมองในระยะยาว ทั้งนี้เพราะผู้โพสต์จะเน้นและให้ความสําคัญเฉพาะในเรื่องที่ผู้โพสต์คิดว่าตัวเองมีความชํานาญเท่านั้น