ห้องเม่าปีกเหล็ก

JAS กลับสู่สามัญ แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
159 views

JAS กลับสู่สามัญ
แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

 

ในวันที่ตลาดหุ้นไทยซื้อขายกันเบาบางชนิดเกือบวางวาย การตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์วันแรก ของนายพิชญ์ โพธารามิก พร้อมกับคำขวัญ ที่ตัวเขาภูมิใจหนักหนาคือ “3 ไม่” (ไม่เอาไปขายต่อใคร ไม่รวมกิจการกับใคร และไม่ถอนตัวออกจากตลาด) ต่อผู้ถือหุ้นรายอื่นของบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) หรือ JAS ยังไม่ปรากฏผลออกมา...ส่งสัญญาณชี้อนาคตระยะใกล้ได้พอเห็นเค้าลาง

เสี่ยพิชญ์เสนอทำเทนเดอร์หุ้น JAS ในราคา 7.25 บาท และ JAS-W3 ในราคา 3.68 บาทต่อหน่วย แต่ก่อนถึงวันทำเทนเดอร์ เสี่ยพิชญ์เข้าถือครองรวบหุ้น JAS ไปแล้ว 66.89% และถือครอง JAS-W3 ไปแล้วรวมจำนวน 30.94%

ราคาหุ้นวานนี้บนกระดาน ของ JAS และบริษัทลูกคือ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS พากันควงแขนร่วงลงโดย JAS ปิดที่ราคาต่ำสุดของวัน คือ 7.25 บาท อันเป็นราคาที่เท่ากับราคาเทนเดอร์พอดี...(ดูกราฟประกอบ)...เหมือนนัดกันเอาไว้ล่วงหน้า

ส่วนราคาหุ้นของ JTS ที่จะตั้งโต๊ะเทนเดอร์วันแรก ในเช้าวันนี้ ก็ร่วงลงมาแรงเช่นกัน ปิดไปที่ราคา 1.54 บาท สูงกว่าราคาเทนเดอร์ 1.50 บาทเล็กน้อย

สัญญาณกราฟทางเทคนิค บอกว่าสามารถลงไปต่อได้อีก...แต่อย่าไปเชื่อสัญญาณ...เพราะหุ้นในเครือ JAS นั้น เชื่อตามสัญญาณไม่ได้เลย เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวเหนือกว่าสัญญาณเทคนิคมาแต่ไหนแต่ไร

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นเรื่อยเจื้อย ชนิด...พูดอย่างไร ก็ไม่เคยผิด...เมื่อวานนี้ว่า การร่วงลงของหุ้น  JAS และ JTS เกิดจากเหตุปัจจัย 1) หมดปัจจัยเชิงบวกที่หนุนราคาหุ้นวิ่งต่อ 2) มีแรงขายออกมา เพราะเสี่ยพิชญ์ ออกมาตอกย้ำเรื่อง ”3 ไม่” ชัดเจน ทำให้หมด สตอรี่”

มุมมองดังกล่าว แม้จะไม่ได้แสดงความชื่นชมกับเสี่ยพิชญ์ แต่นักวิเคราะห์ก็ยัง ”แทงกั๊ก” โดยระบุว่าศักยภาพในแง่ของพื้นฐานหุ้น JAS ยังแข็งแกร่งและเติบโตได้...ที่สำคัญยังคงประเมินว่า โอกาสที่เสี่ยพิชญ์ จะขายหุ้น หรือสว็อปหุ้นกับใคร...ยังไม่ถึงกับปิดตายเสียทีเดียว

ความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ เกิดขึ้นกับเสี่ยพิชญ์ได้ทุกเมื่อ...ยากจะคาดเดา

สรุปก็คือ ดีลเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของเสี่ยพิชญ์กำลังหาที่ลงได้สวยสดงดงาม เพราะ 1) ไม่ถูกก.ล.ต. หรือตลาดฯ ทักท้วงหรือท้วงติงว่าผิดกติกาแต่อย่างใด แสดงว่า...ไฟเขียวผ่านตลอด 2) สร้างราคาหุ้นให้ JAS และ JTS มากกว่า 20% ภายในเวลาสั้นๆ โดยไม่ถูกข้อหา ”สร้างราคา”...ที่เหนือชั้น ชนิด ”ห้ามเลียนแบบ”

ความสามารถพิเศษชนิดเปี่ยมอัตลักษณ์ของเสี่ยพิชญ์ในครั้งนี้...จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากแบ็กอัพ หรือหางเครื่องทางการเงินชั้นยอดคือ ผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ  SCB ที่ปล่อยวงเงินมากกว่า 4 หมื่นล้านบาทให้บุคคลเดียว โดยใช้ใบหุ้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อให้การเทนเดอร์บรรลุเป้า

นิทานเรื่องเทนเดอร์ของเสี่ยพิชญ์ที่จบลงไป จึงไม่ได้หมายความว่าจะจบเบ็ดเสร็จ เพราะยังมีนิทานใหม่ต่อไป เพราะแม้เสี่ยพิชญ์ไม่ได้ควักเงินส่วนตัวจากกระเป๋าเลย แต่เงินกู้เครดิตไลน์จาก SCB นั้น มีดอกเบี้ยและเงินต้นให้ต้องชำระกันในอนาคต

คำถามคือ ความเชื่อมั่นของเสี่ยพิชญ์ที่ว่า ธุรกิจบรอดแบนด์ของบริษัทยังมีโอกาสเติบโตได้แข็งแกร่งอีกมาก เป็นความจริงแค่ไหน ยังต้องการบทพิสูจน์ในอนาคต พูดไปตอนนี้ จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ทั้งสิ้น

เสี่ยพิชญ์บอกว่า  แนวโน้มธุรกิจบรอดแบนด์ของ 3BB ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่เปิดกว้างให้บริษัทเข้าทำตลาดได้อีกมากในอนาคต โดยปัจจุบัน 3BB มีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 2.2 ล้านครัวเรือน โดยล่าสุดมีศักยภาพเพิ่มฐานลูกค้าได้เฉลี่ยตกประมาณไตรมาสละ 1 แสนครัวเรือน และคาดว่าภายในช่วงสิ้นปี 2559 จะมีฐานลูกค้าขยับเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.3-2.4 ล้านครัวเรือน และจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3 ล้านครัวเรือนได้ในช่วงปี 2560

ใครที่ฟังแล้วเคลิ้ม ก็เชิญถือหุ้น JAS ต่อไป

เช่นเดียวกันกับผู้บริหารของ SCB ที่เคลิ้มไปก่อนแล้ว

ส่วนใครไม่เชื่อ ก็เชิญตามสบาย...เอาที่พี่สบายใจ

เพราะจากนี้ไป ละครบทใหม่ของเสี่ยพิชญ์กับธนาคารเจ้าหนี้อย่าง SCB น่าติดตามมากกว่าเรื่องราคาหุ้นของ JAS เยอะ

โปรดติดตามตอนต่อไปที่โทรทัศน์...ช่อง MONO

“อิ อิ อิ”

 

 

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก


หญิงแม้น