วันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องราวของนักธุรกิจหญิงที่เก่าแก่ที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมาย และเป็นมารดาของนักธุรกิจชื่อดัง
ภาพจาก: ASTV
ก่อนอื่น ผมไม่ได้รู้จักกับคุณเพียงใจเป็นการส่วนตัว แต่เนื่องจากผมพอมีข้อมูลเกี่ยวกับคุณเพียงใจจากการที่พ่อผมทำงานในบริษัทซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่คุณเพียงใจเป็นเจ้าของ เรื่องราวของเธอมีความน่าสนใจดี ผมเลยขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับคุณเพียงใจให้ทราบกันครับ
เพียงใจ หาญพาณิชย์ เจ้าของที่ดินรายใหญ่คนหนึ่ง ของเมืองไทย ร่ำรวยขึ้นมา จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นคนสำคัญในการก่อตั้ง บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาที่ดิน ซึ่งมียอดขายหลายหมื่นล้านบาทต่อปี เพียงใจมีที่ดินครอบครองจำนวนมาก เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมาย รวมถึงโรงแรมแมนดารินซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังย่านสามย่าน และโรงรับจำนำชื่อดัง 3 แห่ง คือ โรงรับจำนำมั่งเฮงย่านสนามเป้า โรงรับจำนำมั่งเชียงย่านสะพานควาย และโรงรับจำนำมั่งหลีย่านถนนจันทน์ โดยทั้งหมดจดทะเบียนในฐานะห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งดูแลต่อจากคุณบุญทรงซึ่งเสียชีวิตไป เขาเป็นชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานมายังเมืองไทย ซึ่งเป็นสามีของเพียงใจ เธอเป็นคนที่ไม่ฟุ่มเฟือยและเข้มงวดด้านการใช้จ่าย การแต่งตัวของเธอเป็นการแต่งตัวที่ไม่หรูหราเท่าไรนัก ทุกวันนี้เธอพักอยู่ในโรงแรมแมนดาริน ใช้ชีวิตเรียบง่าย แม้ว่าเธอเป็นมารดาของมหาเศรษฐีอย่างคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ AP thailand และคุณอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของ Land&House ซึ่งมีธนาคารเป็นของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของห้างเทอร์มินอล 21 อโศก และขยายสาขาต่อไปยังต่างจังหวัดแล้ว
ทั้งสองธุรกิจมีโครงการทั้งบ้านและคอนโดอยู่ทั่วประเทศไทย โดยแลนด์แอนด์เฮ้าส์เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2532 ขณะที่ AP เข้าเมื่อปี 2535
ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวใจบุญ เพราะได้ทำบุญเข้าวัดชื่อดังย่านปทุมธานีวันละหลายล้านบาท (ซึ่งเป็นความนิยมส่วนบุคคล)
ภูมิหลังของเพียงใจนั้นเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่ฐานะไม่ค่อยดี เธอเรียนจบแค่ ป.4 และได้แต่งงานกับคุณบุญทรง อัศวโภคิน เจ้าของร้านขายผ้า "โมวฉ่าง" ย่านสะพานหัน โดยสมัยเธอยังสาวๆก็ทำการค้าขายเป็นหลัก เคยเดินทางไกลไปขายของถึงกัมพูชา เธอมาจากครอบครัวชาวจีนที่เปิดร้านขายของโชวห่วย แถวย่านลาดกระบัง และยังเป็นลูกคนโตที่ต้องดูแลน้องจำนวนมาก ทำให้เธอผ่านร้อนผ่านหนาวและผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาเยอะ วีรกรรมของเด็กหญิงเพียงใจ เรื่องทะเลาะกับครูสอนภาษาจีน จนเกือบจะเอาไม้ตีครู ได้กลายเป็นเรื่องเล่าในครอบครัวที่ลูกๆ ทุกคนจำได้ ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้จัดการเมื่อหลายปีมาแล้ว เธอมีบุคลิกไม่กลัวเกรงใคร เข้ามาเป็นสะใภ้ชาวจีนที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่อย่างอัศวโภคิน ซึ่งชีวิตช่วงนั้นไม่ได้สุขสบายนัก เพราะตอนนั้นเงินก็ยังไม่มี แต่ก็ต้องขยันเพิ่มขึ้นทั้งคู่เพื่อหาเลี้ยงชีพเพื่อตนเองและครอบครัว
ความลำบากนั้นทำให้คนขยัน แม้โดนแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมรอบตัว แต่เธอก็ไม่ยอมย่อท้อ ช่วยกันกับบุญทรงต่อยอดธุรกิจ จากห้างขายผ้าโมวฉ่างเพียงร้านเดียว ก็มีร้านสีวลี และมีกิจการโรงรับจำนำไปพร้อมๆ กัน พร้อมกับการเริ่มทำธุรกิจที่ดิน ซื้อมาขายไป การทำตึกแถวย่านหลังวังบูรพา และคิดการใหญ่ทำโรงแรมแมนดาริน ในปี 2508 เพื่อรองรับทหารจีไอที่เข้ามาในเมืองไทยในสมัยนั้น โดยเข้าหุ้นกับเพื่อนๆ หลายคนและกว่าจะสร้างโรงแรมนี้เสร็จ เธอต้องขายที่ดินหมดไปหลายแปลง
ในขณะที่ธุรกิจจัดสรรที่ดินกำลังไปได้ดี อนันต์ ลูกชายคนที่สอง ซึ่งจบการศึกษาะดับปริญญาโทมาจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา และมีความฝันว่าจะเข้าทำงานับบริษัทไอบีเอ็ม องค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้คนเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ที่ดินไม่มีวันงอกเพิ่มขึ้น ธุรกิจที่ดินต่างหากที่น่าทำ จนในที่สุดอนันต์ได้ตัดสินใจเข้ามาช่วยผู้เป็นแม่ ทำโครงการหมู่บ้าน "ศรีรับสุข" ย่านบางเขนเป็นโครงการแรก
ประสบการณ์จากผู้เป็นแม่ ผนวกกับความคิดและการบริหารจัดการสมัยใหม่ของหนุ่มนักเรียนนอกกลายเป็นรากแก้วที่แข็งแรง ส่งผลให้แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กลายเป็นบริษัทที่เติบใหญ่อย่างมั่นคง และมียอดขายบ้านจัดสรรสูงที่สุดในเมืองไทย
ปัจจุบันเธอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ในบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานบริหาร นั่งรับแต่เงินปันผลปีหนึ่งหลายสิบล้านบาทแทน
เครื่องประดับต่างๆที่เธอสวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเพชร ทอง พลอย อัญมณีต่างๆ ล้วนแล้วแต่ซื้อมาจากของหลุดจำนำที่เธอเป็นเจ้าของเอง แม้จะเป็นของมือสองก็ตาม แต่ก็เป็นของมือสองที่มีราคาถูกกว่าตามท้องตลาด และแน่นอนว่าเป็นของแท้
เพียงใจและบุญทรงมีลูกทั้งหมด 4 คน คือ ทรงพล ลูกชายคนโต สุดา ลูกสาวคนเดียว ต่างช่วยกันบริหารงานในโรงแรม แมนดาริน อนันต์ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และอนุพงษ์ คนสุดท้อง เป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้หรือ AP ทุกคนล้วนมีชีวิตความเป็นอยู่ในแบบอย่างที่เธอคาดหวัง ความสุขของลูกหลาน และทรัพย์สมบัติที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงเป็นกำลังใจให้เธอยังสนุกกับชีวิตการทำงาน และเคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือ
"รักตัวเองให้มาก เรื่องอะไร ที่เรารู้ว่าฟังแล้วไม่มีความสุข ก็อย่าไปสนใจ ฟังได้ แต่อย่ารับมาคิด ไม่งั้นใจเราจะเป็นทุกข์" เพียงใจ หาญพาณิชย์ กล่าวไว้กับนักข่าวสังกัดผู้จัดการ
แม้เธอจะไม่มีความรู้มากนัก แต่ความขยันและการลงทุนอย่างถูกที่ถูกเวลา แม้จะเจ๊งบ้าง กำไรบ้าง ด้วยความที่อดทน มานะ ทำให้เธอเป็นทั้งเศรษฐีและแม่ของเศรษฐีไทยคนหนึ่งที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
ที่มา: ผู้จัดการ
เรียบเรียงโดย Pnatv