ห้องเม่าปีกเหล็ก

Story NEWS

โดย aotto
เผยแพร่ :
604 views

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,753.31 จุด ลดลง -45.66 จุด หรือ -0.12%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,022.21 จุด ลดลง -29.20 จุด หรือ -0.58% 

ดัชนี Nasdaq ปิดที่15,683.37 จุด ลดลง -181.88 จุด หรือ -1.15%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.67 ดอลลาร์ หรือ 3.13% ปิดที่ 82.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.73 ดอลลาร์ หรือ 3.03% ปิดที่ 87.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพุธ (17 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาดของสหรัฐ และข้อมูลเศรษฐิจที่อ่อนแอของจีน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า สหรัฐมีความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอล

มูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน (SET)  01 ม.ค. 2567 - 17 เม.ย. 2567

สถาบันในประเทศ                     -11,661.87 ลบ.

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์              -1,848.99   ลบ.

นักลงทุนต่างประเทศ                -65,957.79 ลบ.

นักลงทุนในประเทศ                  +79,468.65 ลบ.

 

เทรนด์ แนวโน้มควบรวมธุรกิจปี 67 เพิ่มต่อเนื่อง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแรง เผย สถิติปี 66 ควบรวม 28 ราย มูลค่า 3.9 แสนล้านบาทนายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กล่าวถึงแนวโน้มการควบรวมธุรกิจในปี2567 ว่า เชื่อว่าแนวโน้มการควบรวมน่าจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ เช่น ขนส่ง ดิลิเวอรี่ ซึ่งต้องยอมรับว่า หลายธุรกิจก็รุ่ง บางธุรกิจก็ไปไม่ไหว โดยขนาดของธุรกิจจะเป็นไซส์กลางและเล็ก เนื่องจากสายป่านทางธุรกิจไม่ยาวมากนักและมีการแข่งขันสูง และธุรกิจด้านออนไลน์ อีกธุรกิจหนึ่งที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มการควบรวมธุรกิจมากขึ้นคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่รายใหญ่ หรือรายใหญ่ไปเทกโอเวอร์รายเล็ก เทรนด์นี้กำลังมาแรง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซา รายเล็กผลประกอบการไม่ดี รายใหญ่ก็ถือโอกาสควบรวมกิจการกับรายเล็กเพราะเวลาซื้อกิจการก็จะมีราคาถูก เพราะธุรกิจเหล่านี้เมื่อซื้อกิจการก็จะได้ที่ดินที่ถือครองมาโดยอัตโนมัติ แทนที่จะซื้อที่ดินและอาจเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่ดินหรือไม่ เพราะอัตราภาษีที่ดินค่อนข้างสูง

เงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์

ธนาคารกรุงไทย มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาต่อดอลลาร์

แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังคงมีอยู่ ทั้ง ความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด (ซึ่งจะคลี่คลายลงได้ เมื่อตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ที่ต้องสะท้อนภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจมากขึ้น) รวมถึง ความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน เงินบาทก็ยังคงเผชิญแรงกดดันจาก แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ และโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทำให้เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.90 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง หลังจากที่เงินบาทได้อ่อนค่าทะลุโซน 36.80-36.85 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วน โดยเฉพาะฝั่งผู้ส่งออก ก็อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 36.85-36.90 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้เงินบาทก็อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวไปได้ จนกว่าจะมีปัจจัยกดดันใหม่ๆ เพิ่มเติม

แนวโน้มตลาดวันนี้

ดีดสลับได้บ้าง แต่ภาพรวมปรับลงได้ต่อ

บล.innovestX คาด SET มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ หลังดัชนีหลุดแนวรับบริเวณ 1370 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค และดัชนีได้รับปัจจัยลบ หลังเฟดส่งสัญญาณจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1360และ 1350 จุด ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1370 และ 1380 จุด

 

 

STA โกยรายได้รับผลดีราคายางพุ่งลุ้นผลงานพลิกบวก

บล.หยวนต้า คาดแนวโน้มกำไรปกติ Q2/67 พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง และคาดทั้งปีกำไร 1,120 ลบ. พลิกบวกจากขาดทุนปีก่อน และบริษัทวางเป้าหมายปริมาณการขายยางทุกประเภทในปี 67 ราว 1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15 %

“บมจ.สโตนวัน หรือ STX” เคาะราคาขาย IPO ที่หุ้นละ 3.00 บาท

เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 18,19 และ 22 เมษายนนี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี จากปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ชูจุดเด่นหินเป็นวัตถุดิบต้นน้ำของอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยโครงการเหมืองของบริษัทอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจที่มีการลงทุนต่อเนื่อง ปักธงเป็นผู้ประกอบการเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ปักธงเทรด26 เมษายน 2567 หมวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

EPG ปักหมุดรายได้ แตะ 1.3 หมื่น ลบ.

นายเฉลียว วิฑูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด Q4ปี66/67 หรือช่วง ม.ค. - มี.ค. 67 เติบโตจากธุรกิจ ทั้งฉนวนกันความร้อน ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ได้รับส่วนแบ่งจากการขยายตัวของธุรกิจร่วมทุนที่ตั้งอยู่หลายประเทศ ทำให้มั่นใจว่างวดปีบัญชี 66/67 (เม.ย.66 - มี.ค.67) จะทำยอดขายเติบโตเป้าที่ 10% หรือมากกว่า 1.3 หมื่นลบ. และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31-33%

MALEE +1.64%

ปรับตัวขึ้นเนื่องจากมุมมองผลประกอบการกำลังอยู่ในช่วง Turnaround /ธุรกิจให้กลับมาเติบโตจากรายได้เติบโต Double digit จากการเพิ่ม Utilization rate สินค้าน้ำผลไม้โดยเฉพาะในกลุ่ม ประกอบกับ การปรับและพลิกไลน์การผลิต

ที่ขาดทุนมา focus ในธุรกิจที่มีกำไร และในฝั่ง SG&A ที่เริ่มทรงตัวเนื่องจากไม่มี ค่าใช้จ่ายในการควบรวม รวมถึง ได้Benefit จาก Tax Shield ช่วง 2024F[1]2026F ทำให้ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำ หากจะหาจุดเก็งกำไร มองราคากรอบ 14.6 บาท อิง PER25x ของกำไร 3 ปีหน้า โดยความเสี่ยง คือ การปรับขึ้นของต้นทุน, ความผันผวนของคำสั่งซื้อ OEM และการขาดแคลน วัตถุดิบ

ICHI

น ลั่นไตรมาส 1/67 ยอดขายโตแรง! รับตลาดไทยขยายตัวสูง-ตลาดต่างประเทศดีขึ้น เตรียมแจ้งงบ Q1 วันที่ 13 พ.ค.นี้ พร้อมคาดไตรมาส 2/67 โตต่อเนื่อง รับไฮซีซั่นเข้าหน้าร้อน-สงกรานต์หนุนยอดขายพุ่ง เห็นกราฟขาขึ้นตั้งแต่เม.ย. ลุ้น "ดิจิทัลวอลเล็ต" เริ่มใช้ไตรมาส 4/67 เชื่อดันยอดขายโชห่วยโต ย้ำเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 9 พันล้านบาท

JKN

 ลุ้นศาลล้มละลายกลางวันที่ 23 เม.ย.นี้ มีคำสั่งรับหรือไม่รับเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจ เตรียมยุติธุรกิจที่ขาดทุน และขายธุรกิจที่ยังพอมีมูลค่า หากศาลฯ ไฟเขียวคาดเริ่มเดินหน้าแผนฟื้นฟูเดือน ม.ค. 68

PRIME

 "ไพร์ม เอสโค่" บริษัทในกลุ่ม PRIME ส่งมอบ Private PPA กับ SORKON ขนาด 0.85 เมกะวัตต์ ในเดือน ก.พ. และ เม.ย. 67 คาดสร้างรายได้รวมโดยประมาณ 3.17 ล้านบาท/ปี พร้อมกำลังเจรจาเพิ่ม ลุ้นบรรลุข้อตกลงในไตรมาส 2/67 นี้อีกกว่า 10 เมกะวัตต์

 


aotto