ย้อนรอยหุ้นเน่า...เจ้าปัญหา
ใครเป็นผู้สอบบัญชีบ้าง?
.
ประเด็นที่เกิดขึ้นอย่างร้อนแรงในวงการตลาดทุนตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างต่อตลาดหุ้นไทย ทั้งนักลงทุนรายย่อย หรือรายใหญ่ ก็ไม่ต่างกัน จนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ 9 องค์กรในตลาดทุน ได้จัดแถลงข่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน
.
โดย Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาย้อนหุ้นเน่าเจ้าปัญหา ที่สร้างความเสียหายในวงกว้างต่อตลาดทุน เริ่มกันที่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ธุรกิจบริหารจัดการขยะ และธุรกิจโรงแรม
.
หากนักลงทุนจำได้ในช่วงนั้น IFEC มีความขัดแย้งภายในบริษัท จนมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในตั๋วแลกเงินระยะสั้น (ตั๋วบี/อี) และหุ้นกู้ในที่สุด โดยปัจจุบันถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ขณะที่ปี 2559-2565 บริษัทมีผู้สอบบัญชีดังนี้
.
ปี 2559 บริษัท กรินทร์ออดิท จำกัด ไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการของกลุ่มบริษัท
.
ส่วนปี 2560-62 สำนักงาน เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท ไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการของกลุ่ม บริษัท ปี 2563 สำนักงาน เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท แสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ ส่วนปี 2564-66 ก็คือสํานักงาน เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท เช่นกัน
.
ถัดมา บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH อีกหนึ่งบริษัทที่วุ่นวายเช่นกัน ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการทำเหมืองถ่านหินและการนำเข้าและจำหน่ายถ่านหิน หากย้อนกลับไปสรุปง่ายๆ ในช่วงนั้นมีประเด็นทั้งผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (Bill of Exchange) หรือ ตั๋วบี/อี จนถึงการนำเข้าถ่านหินล่องหนนั่นเอง
.
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 เป็นเหตุให้ผิดนัดชำระหนี้สินที่คงค้างและหนี้สินที่ทยอยถึงกำหนดชำระ โดยปี 2559-60 ผู้สอบบัญชี คือ บริษัท ไพร้ซวอเตอร์ เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด
.
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น บริษัทวางเป้าหมายไว้อย่างสวยงาม “5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศ” สำหรับการดำเนินการช่วงปี 2556 –2560 โดยวางเป้าหมายที่จะมีเหมืองถ่านหินไม่ต่ำกว่า 5 เหมือง โดยแต่ละเหมืองจะมีปริมาณสำรองประมาณ 30-40 ล้านตัน นอกจากนี้ยังมีเป้าหมาย นำธุรกิจการการค้าปลีกถ่านหินไปยังประเทศที่มีความพร้อมและเหมาะสม ให้รวมเป็นอย่างน้อย 5 ประเทศ ทำให้ราคาหุ้นช่วงนั้นร้อนแรงอย่างมากเลยทีเดียว
.
ต่อมาอีกหนึ่งหุ้นที่เคยสุดฮอตอย่าง บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL โดยปัจจุบันถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ดำเนินธุรกิจหลักคือการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ และให้บริการสินเชื่อ ซึ่งในช่วงปัญหานั้น ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษผู้บริหาร GL ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในความผิดเกี่ยวกับการทุจริต เข้าข่ายเป็นธุรกรรมอำพราง การยักยอก ยินยอมให้ลงบัญชีและทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง และถือเป็น จากหุ้นดาวรุ่ง กลายเป็นหุ้นฉาวทันที ขณะที่ผู้สอบบัญชี ปี 2560-61 บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด และปี 2562 บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด
.
สุดท้าย STARK บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK (บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน) ที่กำลังสร้างตำนานบทใหม่ให้กับตลาดทุนของไทย เพราะสร้างเรื่องหลอกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั่วทั้งตลาดทุน
.
โดย STARK ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลมามากกว่า 50 ปี นอกจากธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล STARK ยังมีบริษัทย่อยที่ประกอบกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล
.
ทั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งผู้วาดฝันอย่างสวยหรู กับแผนเทคโอเวอร์ธุรกิจโซลูชั่นสายเคเบิลยักษ์ใหญ่จากเยอรมันมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท จึงต้องพิ่มทุนจากนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ได้เงินเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปกว่า 5,580 ล้านบาท
.
จากนั้นก็ล้มดีลไปดื้อๆ ต่อมาไม่ส่งงบการเงินปี 2565 แต่มีการส่งมอบภายหลังและมีแก้ไขงบย้อนหลังปี 2564 อีกด้วย ซึ่งมีการทุจริตภายในบริษัทนั่นเอง สำหรับผู้สอบบัญชีปี 2564 คือ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด และล่าสุดปี 2565 บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด
