ห้องเม่าปีกเหล็ก

ลงทุนแบบป้าแอนน์

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
68 views

จริงๆตอนแรกผมมานั่งคิดว่าเราเรียนรู้อะไรบ้างจากชีวิตของป้าแอนน์ หรือแอนน์ ไชเบอร์ แต่เห็นบทความของ ดร. นิเวศน์ สรุปมาได้อย่างครบถ้วนแล้ว ผมจึงนำมาลงอีกครั้ง เพื่อให้นักลงทุนได้ทบทวนกันครับ

อ่านฉบับเต็มได้ที่นี้ : ลงทุนแบบป้าแอนน์ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

หลักการลงทุนของแอนน์ที่มีการพูดถึงกันหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้วพอสรุปคร่าว ๆ ได้ดังต่อไปนี้

 

1 ลงทุนในบริษัทที่ผลิตสินค้าที่มียี่ห้อ “ดัง” และเป็นสินค้าที่เธอรู้จักดีและมีโอกาสได้ใช้ตลอดเช่น ยาและอาหาร บริษัทที่เธอถือหุ้นจำนวนมากประกอบไปด้วยหุ้นของ บริษัทยาเช่น เชอริงก์ พลาว หุ้น โค๊กและเป๊ปซี่ เป็นต้น นอกจากนั้น ค่าที่เธอชอบดูหนังและทีวี เธอจึงลงทุนในหุ้นอย่างโคลัมเบียพิคเจอร์ พาราเม้าท์ และ แคปปิตอลซิตี้ที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ เป็นต้น

 

2 แอนน์ชอบบริษัทที่มีผลประกอบการหรือกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี โดยไม่ค่อยสนใจเรื่องของความถูกความแพงมากนัก นั่นคือ ไม่ค่อยดูค่า PE เธอบอกว่าบางช่วงหุ้นถูก บางช่วงหุ้นก็แพง ดูยาก แต่ถ้ากำไรของบริษัทโตขึ้นไปเรื่อย ๆ ในที่สุดราคาหุ้นก็จะขึ้นตามไป ดังนั้น ไม่ต้องห่วงว่าจะซื้อถูกหรือแพงถ้าเราถือลงทุนระยะยาว

 

3 ต่อจากข้อสองที่ทำให้เธอไม่ห่วงเรื่องหุ้นแพงหรือถูกก็คือ เธอจะสะสมหุ้นดีตามข้อหนึ่งไปเรื่อย ๆ ทีละน้อย นั่นคือ เมื่อได้รับปันผลเข้ามาก็จะนำเงินกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นอีก ดังนั้น ในบางคราวที่หุ้นตก เธอก็จะซื้อได้ถูกลง เฉลี่ยราคาลงมา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การทำคล้าย ๆ กับวิธีที่เรียกว่า Dollar Cost Average หรือซื้อไปเรื่อย ๆ ทุกเดือนหรือทุกงวดที่ได้เงินมา ดังนั้น ราคาต้นทุนเฉลี่ยของหุ้นเหล่านั้นก็จะไม่สูงหรือไม่ต่ำแต่เป็นหุ้นของกิจการที่ดีเยี่ยม

 

4 กลยุทธ์สำคัญอย่างหนึ่งของแอนน์ก็คือ “ซื้อแล้วเก็บ” โดยเฉพาะในหุ้นที่เธอเชื่อมั่นว่ามันเป็นกิจการที่ดีเยี่ยม แม้ในยามที่ตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนักหรือตัวหุ้นตกลงมา บางที 50% เธอก็ไม่ขาย ความ “ศรัทธา” ของเธอนั้นแรงกล้า เธอคิดว่าถ้ากิจการมันดี ราคาหุ้นก็ต้องกลับมา และถ้าดูจากหุ้นที่เธอถือ ก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่ามันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

 

5 “ทำการบ้าน” นี่คือสิ่งที่แอนน์ทำมาตลอด เธอจะไปประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้งที่ทำได้โดยเฉพาะที่จัดในเมืองนิวยอร์ค เธอจะศึกษาข้อมูลและไปซักถามผู้บริหารอย่างลึกซึ้งแล้วนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของนักวิเคราะห์และความเห็นของตนเอง แอนน์เองเคยเป็นผู้ตรวจสอบด้านภาษีของบริษัทต่าง ๆ ดังนั้น เธอจึงรู้เรื่องเหล่านี้ดี

 

6 เนื่องจากอัตราภาษีโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสูงมาก แอนน์จะพยายามหลีกเลี่ยงให้ต้องจ่ายน้อยที่สุด เช่น เธอจะขายหุ้นน้อยมากเนื่องจากการขายหุ้นจะเสียภาษีกำไรจากการขายหุ้น นอกจากนั้น ในวันที่เธอตายยังพบว่าเธอถือพันธบัตรถึง 30% ของพอร์ต เนื่องจากประเด็นเรื่องภาษีที่จ่ายน้อยกว่าการถือหุ้นทั้งหมด และนี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่แอนน์ใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านภาษีของตนเองในการลงทุน

 

7 กลยุทธ์การสร้างความมั่งคั่งของแอนน์ที่สำคัญสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ การประหยัด ใช้จ่ายเงินเพื่อการบริโภคน้อยมาก บ่อยครั้งเธอเดินแทนที่จะใช้รถสาธารณะ ไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย เสื้อโค้ทและหมวกสีดำของเธอกลายเป็นสัญลักษณ์ “ประจำตัว” กินอาหาร “ฟรี” ทุกครั้งที่มีโอกาส อยู่ในอพาร์ทเม้นต์ห้องเดียวและตัวคนเดียว เธอแทบไม่มีเพื่อนเลย คนเล่าว่าใน 5 ปีสุดท้ายของชีวิตนั้น เธอไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนแม้แต่ครั้งเดียวและนี่ก็อาจจะเป็น “ต้นทุน” ของความประหยัด หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เธอเลือกก็สุดจะเดา แต่คนบอกว่าเธอมีชีวิตที่ “น่าสังเวช” วันที่ยิ่งใหญ่มีความสุขของเธอก็คือวันที่เธอเดินไปเปิดตู้นิรภัยที่เมอริล ลินช์ ใกล้ ๆ ตลาดหุ้นนิวยอร์คเพื่อที่จะดูใบหุ้น ซึ่งเธอก็ทำอยู่บ่อย ๆ

 

ผมเองไม่อยากที่จะตัดสินว่าเธอเป็นคนที่น่าอนาถ ผมคิดว่าเธอมีความคิดของเธอเอง และเธอก็คงไม่ได้มีความทุกข์หรือความเศร้าหมองอะไรนักมิฉะนั้นคงไม่อยู่ถึง 100 ปีในยุคที่คนส่วนใหญ่อยู่กันแค่ 60-70 ปีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ในส่วนของวิธีการลงทุนของแอนน์เองนั้น ผมคิดว่ามันยังน่าจะดีเยี่ยมและไม่ล้าสมัยและน่าจะเหมาะกับนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากของบ้านเรา โดยเฉพาะที่กำลังเป็น “ป้า” และไม่เคยแต่งงานแบบ “ป้าแอนน์”


SiTh LoRd PaCk