รู้จัก Plan B Media ผู้นำสื่อนอกบ้านของไทย
ถ้าคุณเคยเห็นป้ายโฆษณายักษ์ริมทางด่วน ป้ายดิจิทัลในห้าง หรือรถเมล์ที่มีโฆษณาเต็มคัน
มีโอกาสสูงว่าพื้นที่นั้นจะเป็นของ Plan B Media
บริษัทไทยที่เป็นผู้เล่นใหญ่ในตลาด Out-of-Home Media (OOH)
Plan B คือผู้ให้บริการ สื่อนอกบ้านที่มีพอร์ตโฟลิโอครบเครื่องและหลากหลาย ครอบคลุมทั้ง กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
.

สื่อนอกบ้านของ Plan B ครอบคลุม 5 หมวดใหญ่:
- Transit Media: รถเมล์ รถไฟ BTS รถตู้ ฯลฯ
- Classic Media: ป้ายโฆษณาแบบดั้งเดิม
- Digital Media: จอดิจิทัลตามย่านธุรกิจ ห้าง และร้านสะดวกซื้อ
- Retail Media: สื่อในร้านค้า เช่น 7-Eleven
- Airport Media: ป้ายในสนามบินทั่วประเทศ
นอกจากนี้ Plan B ยังต่อยอดสู่ Engagement Marketing เช่น การทำ Sports Marketing การบริหารศิลปิน และการรับสร้างคอนเทนต์ให้แบรนด์
.
เครือข่ายสื่อของ Plan B ใหญ่ขนาดไหน?
โฆษณาบนรถโดยสารกว่า 2,700 คัน ครอบคลุม 208 เส้นทาง
ป้ายโฆษณาแบบดั้งเดิมกว่า 3,900 ป้าย ทั่วประเทศ
ป้ายในป้ายรถเมล์อัจฉริยะ 1,170 ป้าย
จอดิจิทัล 576 จอ ในจุดสำคัญทั่วเมือง
จอดิจิทัล 14,000+ จอ ในร้าน 7-Eleven
สื่อโฆษณาใน 28 สนามบิน โดยมีมากกว่า 3,500 ป้าย
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ Plan B ซึ่งปัจจุบันอาจมีตัวเลขที่สูงกว่านี้)
.
ทำไม "สื่อนอกบ้าน" ถึงยังสำคัญในยุคดิจิทัล?
1. เข้าถึงคนจำนวนมาก
ป้าย OOH มักอยู่ในจุดที่คนพลุกพล่าน เช่น ห้าง ริมถนน ริมทางด่วน
สถิติจาก Nielsen ระบุว่า OOH เข้าถึง 90% ของประชากร ในสหรัฐฯ ทุกเดือน
2. ลงทุนไม่มาก แต่ได้ผล
สื่อนอกบ้านช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยต้นทุนไม่สูงเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่เห็น
3. สร้างการจดจำแบรนด์
เมื่อผู้คนเห็นโฆษณาในจุดเดิมซ้ำๆ ทุกวัน ก็ยิ่งจำแบรนด์นั้นได้โดยไม่รู้ตัว
OAAA เผยว่าแคมเปญ OOH สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้ถึง 48%
และหากเสริมกับโฆษณาดิจิทัล จะเพิ่มได้อีก 43%
4. สร้างแรงกระตุ้นให้คนค้นหาข้อมูลต่อ
โฆษณานอกบ้านมักเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนสนใจแบรนด์ ก่อนจะไปเสิร์ชต่อ หาข้อมูลเพิ่มเติม หรือคลิกเข้าเว็บไซต์
5. ปรับให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนดูได้
ป้ายดิจิทัลสามารถเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะกับช่วงเวลาและสถานที่ เช่น โปรโมทร้านอาหารช่วงเที่ยง หรือโปรโมทหนังในช่วงเวลาหลังเลิกงาน
.
แม้จะเป็นสื่อดั้งเดิม แต่ OOH ยังคงเป็น “สื่อหลัก” ประเภทหนึ่งที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม
โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับสื่อดิจิทัล ก็ยิ่งเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา. Marketeer Online