ห้องเม่าปีกเหล็ก

เทียบฟอร์ม CBG-OSP 2 เจ้าตลาดธุรกิจเครื่องดื่ม

โดย เม่าคาวบอย
เผยแพร่ :
355 views

เทียบฟอร์ม CBG-OSP

2 เจ้าตลาดธุรกิจเครื่องดื่ม

.

หากพูดถึงธุรกิจเครื่องดื่มที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจ ก็ต้องคู่เทียบ 2 บริษัทนี้ ขึ้นมาในวงสนทนาอย่างแน่นอน อย่าง บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG และ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ด้วยขนาดของบริษัทที่ใกล้เคียงกัน และยังเป็นเจ้าตลาดที่มักพบเห็นได้ตามร้านสะดวกซื้อในทุกพื้นที่

.

ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูล พร้อมกับแนวโน้มของธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ และแนวโน้มในอนาคตของทั้ง 2 บริษัท ผ่านมุมมองจากนักวิเคราะห์ว่า จะมีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใดมาแบ่งปันให้แก่นักลงทุนที่สนใจและผู้อ่านกันในครั้งนี้

.

เริ่มที่ OSP บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรปี 2566 ที่ 2.85 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 47% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่เริ่มทรงตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/66 ที่ 46.6% เพิ่มเป็น 47.5% ในไตรมาส 2/66 และตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอีก 2% ภายในสิ้นปี 2566 และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อไตรมาส

.

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 ที่ 584 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 6.2% , เติบโตจากช่วงเดียวกัน 139.6% เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี

.

ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ชะลอลง เป็นการลดลงในระยะสั้นเท่านั้น เพราะบริษัทชะลอการทำแคมเปญการตลาด แต่จะชดเชยได้ด้วยราคาต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง อาทิ ราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลงและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง

.

ดังนั้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 34 บาท โดยมองราคาหุ้นที่ย่อลงมา สวนทางปัจจัยด้านพื้นฐานที่แนวโน้มผลประกอบการอยู่ในช่วงฟื้นตัว จากปัจจัยกดดันด้านต้นทุนที่คลี่คลายมากขึ้น จึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์จากแผนการทำดีลซื้อกิจการที่จะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 4/66 โดยคาดการณ์กำไรทั้งปี 2566 ที่ 2.58 พันล้านบาท เติบโต 33.7% จากปีก่อนหน้า

.

สำหรับ CBG บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มกำไตรมาส 3/66 จะเพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน จากอัตรากำไรที่ผ่านจุดต่ำสุดและฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังที่ฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้ยอดขายหนุนจากการผลิตแพคเกจจิ้งและการจัดจำหน่ายเบียร์

.

ทั้งนี้ ได้ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 98 บาท เพื่อสะท้อนทิศทางกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังแนวโน้มดีขึ้นช่วงถัดไปจากการแข่งขันผ่อนคลาย โดยปัจจุบันเริ่มเห็นเชิงบวกจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรที่ฟื้นตัวผ่านจุดต่ำสุด สำหรับคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่ 1.96 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 14%

.

ฟากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรปี 2566 ที่ 1.97 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 14% ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบ, แพคเกจจิ้ง และพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งสัดส่วนรายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายที่มีมาร์จิ้นต่ำขยายตัว

.

ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 109 บาท เนื่องจากผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำไรจะเดินหน้าสู่วัฎจักรขาขึ้นรอบใหม่

 

 


เม่าคาวบอย