TCAP หุ้นปันผลยอดฮิต จับตาปี 67-68 ให้ผลตอบแทนสูง

TCAP หุ้นปันผลยอดฮิต

จับตาปี 67-68 ให้ผลตอบแทนสูง 6.9-8%

.

TCAP เป็นอีกหนึ่งหุ้นในกลุ่มการเงินที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนสายปันผล เพราะมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ และยังอยู่ในระดับสูงกว่า 6% ต่อเนื่องหลายปี แม้ผลประกอบการไตรมาส 4/66 จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด จากการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มที่ชะลอตัวลง และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังคงจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 2 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ระดับ 4% ซึ่งยังมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลดี

.

ดังนั้น Wealthy Thai จึงอยากชวนนักลงทุนมาสำรวจว่าในปี 2567 บริษัทจะมีแนวโน้มการดำเนินงานอย่างไร และคาดการณ์การจ่ายปันผลในระดับเท่าไหร่

.

TCAP หรือ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 จำนวน 1,435 ล้านบาท โต 32.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 20.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 17.5% โดยถูกกดดันจากผลดำเนินงานของ THANI ที่ชะลอตัว, ธุรกิจประกันชีวิต TLIFE พลิกมีผลขาดทุน, กำไรของธุรกิจหลักทรัพย์ TNS ลดลง และต้นทุนทางการเงินของบริษัทขยับขึ้น

.

โดยปัจจัยลบต่างๆ บางส่วนถูกชดเชยด้วยผลดำเนินงานของ TTB ที่มีการเติบโตสูง ส่งผลให้ภาพรวมปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6,603 ล้านบาท โต 26.5% จากปีก่อน ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิงวดครึ่งหลังปี 2566 ในจำนวนหุ้นละ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4% มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 18 เม.ย. นี้ และจ่ายปันผลวันที่ 3 พ.ค. 67 ดังนั้นเมื่อรวมกับปันผลระหว่างกาล (ม.ค.-มิ.ย. 66) ที่บริษัทจ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท ทั้งปี 2566 บริษัทจะจ่ายปันผลรวมในอัตราหุ้นละ 3.20 บาท

.

ขณะที่แนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในปี 2567-2568 นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในปีนี้ที่ 3.43 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับ 6.9% และปี 2568 คาดจะอยู่ที่ 3.96 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ระดับสูงถึง 8%

.

ด้านทิศทางการเติบโตในปี 2567 ฝ่ายวิเคราะห์คาด TCAP จะมีกำไรสุทธิ 7,185 ล้านบาท โต 8.8% จากปีก่อน หนุนจาก 1. การตั้งสำรองของ THANI ที่ทยอยลดลง ตามการฟื้นตัวของคุณภาพสินทรัพย์ในพอร์ต และการควบคุมการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น

.

2. ส่วนแบ่งกำไรมีแนวโน้มขยายตัวดีจาก TTB ที่มีประเด็นหนุนจากผลประโยชน์ทางภาษีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 5 ปีนี้ ประกอบกับคาดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการต่อยอดเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับลูกหนี้ที่มีคุณภาพดี และ 3. คาดรายได้ดอกเบี้ยจาก TPLUS ยังเติบโตได้ต่อจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ขยายตัวดี ตามความต้องการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม แม้ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าผลดำเนินงานของ TCAP มีช่องว่างให้เติบโตได้ในปี 2567 แต่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัดเมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 54 บาท จึงคงคำแนะนำเพียง “เก็งกำไร” ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิครึ่งหลังปี 2566 ที่หุ้นละ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield 4% ซึ่งถือว่ามีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลดี ขณะเดียวกันปีนี้ก็คาดว่าจะให้ Dividend Yield ประมาณ 6.9%