ห้องเม่าปีกเหล็ก

ญี่ปุ่นเอาจริง! ขอเข้าร่วมสงครามเซมิคอนดักเตอร์โลก

โดย เม่าคาวบอย
เผยแพร่ :
70 views

ญี่ปุ่นเอาจริง! ขอเข้าร่วมสงครามเซมิคอนดักเตอร์โลก

.ในสมรภูมิชิปที่ขับเคลื่อนโลกยุคดิจิทัล ‘ประเทศญี่ปุ่น’ ดินแดนที่เคยเป็น "จักรพรรดิ" แห่งวงการเซมิคอนดักเตอร์ในทศวรรษ 1980 กำลังเดิมพันครั้งประวัติศาสตร์เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับคืนมาอีกครั้ง หลังถูกคลื่นลมแห่งการแข่งขันจากเกาหลีใต้และไต้หวันซัดกระหน่ำ จนหลุดจากตำแหน่งผู้นำมานานหลายทศวรรษ นี่คือภารกิจฟื้นฟูชาติที่ไม่ได้มีเดิมพันแค่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่ยังหมายถึงความมั่นคงทางเทคโนโลยีและภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศ

 

.

แผนการกลับมาผงาดครั้งนี้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2024 เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ด้วยเป้าหมายอันท้าทายที่จะผลักดันยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในประเทศให้พุ่งทะยานสู่ระดับ 15 ล้านล้านเยน (ประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดขายในปี 2020 ถึงสามเท่าตัว

.

ความทะเยอทะยานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่มาจากความเชื่อมั่นในศักยภาพและสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง มุมมองนี้ได้รับการตอกย้ำโดย Mr. Toshiki Kawai ซีอีโอของ Tokyo Electron หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์การผลิตชิปของญี่ปุ่น ซึ่งกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเติบโต และความต้องการอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นหากผู้ผลิตชิปเร่งความพยายามในการกระจายการผลิตออกจากจีนและไต้หวัน”

.

คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่เปิดกว้างจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งญี่ปุ่นพร้อมที่จะคว้าไว้

.

หัวใจสำคัญของแผนการฟื้นฟูนี้คือ Rapidus บริษัทสตาร์ทอัพที่เปรียบเสมือน ‘เรือธง’ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากรัฐบาล ภารกิจของ Rapidus นั้นชัดเจนและท้าทายอย่างยิ่ง นั่นคือการพัฒนาและผลิตชิปสถาปัตยกรรม 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าจะเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ให้ได้ภายในปี 2027 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นกลับมาอยู่ในแถวหน้าของโลกเทคโนโลยีอีกครั้ง

.

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นตระหนักดีว่าการต่อสู้ในสมรภูมินี้ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง การสร้างพันธมิตรจึงเป็นกุญแจสำคัญ Mr. Ryoze Akasawa หัวหน้าผู้เจรจาการค้าของญี่ปุ่น ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยกล่าวว่า “เราต้องการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับสหรัฐฯ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะมีซัพพลายเชนที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับเซมิคอนดักเตอร์”

.

ถ้อยแถลงนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การฟื้นคืนชีพของอุตสาหกรรมชิปญี่ปุ่นนั้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความมั่นคงของโลกตะวันตก ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสหรัฐฯ และจีน

.

ความมุ่งมั่นของรัฐบาลถูกขีดเส้นใต้ให้เข้มขึ้นไปอีก เมื่อ Mr. Shigeru Ishiba นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศในงานแถลงข่าวถึงเม็ดเงินลงทุนมหาศาลว่า

.

“เราจะลงทุนมากกว่า 10 ล้านล้านเยนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ภายในปี 2030 เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ”

.

แต่ก็ต้องยอมรับว่าเส้นทางสู่การทวงคืนบัลลังก์ยังคงเต็มไปด้วยขวากหนาม ความท้าทายใหญ่หลวงรออยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องใช้เงินทุนและความเชี่ยวชาญมหาศาล หรือการแย่งชิงบุคลากรและแรงงานทักษะสูง ซึ่งเป็นที่ต้องการทั่วโลก

แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ Mr. Yoshihide Suga อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยย้ำถึงความสำคัญของเรื่องนี้ไว้ว่า “การฟื้นฟูอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ญี่ปุ่นกลับมายืนหยัดในตลาดโลก แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับคนรุ่นต่อไป”

.

วันนี้ ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าเต็มกำลัง ด้วยการลงทุนที่ชัดเจน การสนับสนุนจากภาครัฐ และความร่วมมือจากภาคเอกชน นี่อาจเป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศ คำถามสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าญี่ปุ่นจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าโลกจะได้เห็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของอดีตจักรพรรดิแห่งวงการเซมิคอนดักเตอร์ได้อีกครั้งเมื่อใด

คุณคิดว่าสงครามชิปในยุคนี้ ญี่ปุ่นจะนำทัพกลับมาคว้าชัยได้หรือไม่ ลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลย

 

 

ที่มา.   Business Tomorrow


เม่าคาวบอย