บทบรรณาธิการ : หวังจีน ดันท่องเที่ยวไทยเต็มสูบปีหน้า

.
ในที่สุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์เสียที หลังจากประชาชนออกมาประท้วงอย่างกว้างขวางในหลายเมือง ซึ่งถือเป็นการแสดงความไม่พอใจของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดของจีนแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ขึ้นสู่อำนาจในปี 2555 เลยทีเดียว เรียกว่าไม่สุดจริง ไม่มีทางออกมาประท้วงหนักกันขนาดนี้
.
ทำให้รัฐบาลจีนยอมยกเลิกผลตรวจโควิดก่อนเข้าพื้นที่สาธารณะต่างๆ รวมทั้งการล็อกดาวน์ และล่าสุดก็ยังได้ยกเลิกการใช้แอปพลิเคชันติดตามตัว ที่คอยตรวจสอบว่าประชาชนเดินทางไปเขตที่มีการระบาดของไวรัสหรือไม่อีกด้วย ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ถึงกับออกมาฉลองกันยกใหญ่ เพราะนั่นเท่ากับว่ารัฐบาลยอมที่จะผ่อนคลายการควบคุมประชาชนในทางสังคมอีกด้วย
.
ซึ่งเท่ากับวันตรุษจีนที่จะมาถึงในเดือนมกราคม ปีหน้า จะมีชาวจีนจำนวนมากได้เดินทางเพื่อเยี่ยมครอบครัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และคาดว่าในอนาคตมาตรการโควิด-19 ของจีนจะผ่อนคลายมากขึ้นอีก รวมไปถึงเรื่องการปิดพรมแดนด้วย
.
เพราะฉะนั้นจึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า การยกเลิกการควบคุมต่างๆ ของประเทศที่มีอำนาจซื้อมหาศาลอย่างจีน จะเป็นการเพิ่มโอกาสของการเติบโตทั่วโลกในระยะยาว เพราะนักท่องเที่ยวจากจีนจะได้กลับไปเดินทางได้อีกครั้ง และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อจีนผ่อนคลายมาตรการ จะทำให้เราได้รับอานิสงส์ได้เต็มที่
.
อย่าลืมว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 นั้น ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาสูงถึง 40 ล้านคนต่อปี โดยจีน เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากที่สุดเป็นอันดับแรก แถมยังเป็นประเทศที่เข้ามาเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่หรือ กลุ่มทัวร์ ชอบชอปปิ้งและมียอดซื้อของฝากสูงกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่น ซึ่งช่วยกระตุ้นและเพิ่มยอดการท่องเที่ยวบ้านเรามาโดยตลอด จนเมื่อเกิดโควิด
.
ในขณะที่ประเทศไทยปีนี้เราคาดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังเปิดประเทศอยู่ที่ 11 ล้านคน โดยล่าสุดเพิ่งฉลองครบ 10 ล้านคนไป ส่วนปีหน้าเราตั้งเป้าไว้ที่ 18.5 ล้านคน เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลจีนผ่อนคลายโควิดเป็นศูนย์ และอนุญาตให้ประชาชนท่องเที่ยวต่างประเทศได้ รับรองได้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้าเป้าได้แน่นอน และนอกจากประเทศไทยแล้ว ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็จะได้รับผลดีจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนเช่นเดียวกัน
.
ดังนั้นในรอบ 3 ปี หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมา จะเป็นการเพิ่มรายได้การท่องเที่ยว และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของไทย ในปี 2566 ได้เต็มสูบ
.
ล่าสุดฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดโผหุ้น 20 บริษัทจาก 7 กลุ่ม ที่จะได้รับผลดีจากกรณีที่จีนคลายมาตรการ ที่ของถือโอกาสนำมาฝากกันไว้
.
รักตัวไหน ชอบตัวไหน ก็ลองพิจารณาดูกันได้
.
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม AOT, ERW, CENTEL, MINT
กลุ่มยางพารา KCE, SMT
กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย NOBLE, ANAN, ORI
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC, SCGP, TMT
กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี TOP, PTTGC, IRPC
กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม CBG
กลุ่มเช่าซื้อ MTC, ASK