เงินเฟ้อโลกพุ่ง กดหุ้นไทยปิดลบ 8.72 จุด วอลุ่มซบเซา 59,628.75 ล้านบาท
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 10 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 1,632.62 จุด ลดลง 8.72 จุด (-0.53%)โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,640.86 จุด ต่ำสุดที่ 1,631.43 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 59,628.75 ล้านบาท
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตาม Sentiment การลงทุนต่างประเทศ หลังความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆพิจารณาใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของธนาคารกลางของหลายๆประเทศ
ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ได้มีการมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่เสียงแตกโดยมี 4 เสียงเห็นคงอัตราดอกเบี้ยและ 3 เสียงเห็นควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นโอกาสที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดได้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า คาดดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ การปรับตัวขึ้นคงไม่แรง เนื่องจากยังต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารต่างๆที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า รวมถึงรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยมองว่าการปรับตัวลดลงจะไม่มากนัก เนื่องจากยังมีกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ พร้อมให้แนวรับที่ 1,610 จุด และ 1,600 จุด แนวต้าน 1,650 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,690.53 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 4.00 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,199.95 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,761.35 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,485.63 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
- KKP มูลค่าการซื้อขาย 1,481.85 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 2.75 บาท