ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องอนาคต CPALL

โดย ELEVEN7
เผยแพร่ :
417 views

ส่องอนาคต CPALL ผลงานที่เติบโต

มาพร้อมกับปัจจัยบวกหนุนธุรกิจรอบด้าน

.

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เป็นอีกหนึ่งหุ้นใหญ่ที่นักลงทุนฝากความหวัง และเลือกที่จะไว้ใจเข้าลงทุน ด้วยความที่ CPALL เป็นหุ้นขนาดใหญ่ประกอบธุรกิจในหมวดที่นักลงทุนเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน

.

ด้วยการที่ CPALL เป็นเจ้าของธุรกิจร้านค้าปลีกที่ใครหลายคนก็รู้จักอย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” ประกอบกับยังได้มีส่วนร่วมในการถือหุ้นร้านค้าปลีกอย่างโลตัสส์ รวมไปถึงร้านค้าส่งขนาดใหญ่อย่างห้างแม็คโคร

.

ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ถือหุ้น หรือนักลงทุนรอจับตาดูอยู่ว่าผลประกอบการไตรมาส 1/66 จะออกมาในทิศทางไหน เพราะหลายฝ่ายกังวลว่า ธุรกิจของ CPALL จะได้รับผลกระทบในด้านต้นทุนที่เพิ่ม ซึ่งเป็นเหตุเกิดจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น

.

ขณะที่ในอีกมุมหนึ่งของความกังวล ก็ยังมีปัจจัยบวกให้ผู้ถือหุ้น หรือนักลงทุนพอจะชื้นใจได้บ้าง คือประเด็นที่ภาคการบริโภคในประเทศฟื้นตัว จากนักท่องเที่ยว และช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของไทย

.

อย่างไรก็ตาม CPALL ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ด้วยการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการดำเนินงานของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจแม็คโคร

.

โดยในไตรมาส 1/66 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 94,634 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% และมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน อยู่ที่ 78,735 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

ด้านนักวิเคราะห์หลายแห่งระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าผลประกอบการของ CPALL จะเติบโตได้ต่อเนื่อง จะได้อานิสงส์อากาศร้อน,กิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจคึกคักมากขึ้นตามภาวะท่องเที่ยว, การใช้จ่ายเม็ดเงินสะพัดในช่วงเลือกตั้งและการเปิดภาคเรียน

.

ตัวอย่างเช่น บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/66 จะเติบโตทั้งจากไตรมาส 1/66 และช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวประกอบกับมีวันหยุดจำนวนมาก, เม็ดเงินสะพัดในช่วงเข้าสู่การเลือกตั้ง

.

โดยถือเป็นปัจจัยที่ทำให้กำลังซื้อยังแข็งแกร่ง และได้อานิสงค์จากหน้าร้อน ส่งผลให้คนเข้ามาซื้อเครื่องดื่ม หรือ สินค้าคลายร้อนมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่ม Traffic ให้แก่ร้านสะดวกซื้อ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยหนุนให้SSSG ของร้านค้าสะดวกซื้อยังบวกต่อเนื่อง ประกอบกับแรงกดดันต้นทุนค่าไฟต่อหน่วยจะลดลง ตั้งแต่ พ.ค.

.

ส่วนการขยายสาขาในปี 66 การที่ CPALL คงแผนขยาย 700 แห่ง หากเป็นไปตามคาด ณ สิ้นปี จะมีสาขาร้านค้าสะดวกซื้อราว 1.45 หมื่นสาขา ทำให้คงความได้เปรียบ จากการเป็นผู้ประกอบการที่มีจำนวนสาขามากที่สุด และช่วยหนุนผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง

.

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 75บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีความได้เปรียบในการครองตลาด รวมทั้งโอกาสการเติบโตในอนาคตหนุนด้วยธุรกิจ Delivery และการลงทุนในต่างประเทศ

.

เช่นเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่คงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่ 1.92 หมื่นล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 75.00 บาท อิง PER ที่ 35 เท่า

.

ขณะเดียวกันมองว่ากำไรปี 67 จะดีขึ้นได้ จากจำนวนสาขาที่มากขึ้นและธุรกิจค้าส่งที่มองว่ายังโตได้ต่อเนื่อง และ จากค่าพลังงานที่ลดลง และแรงหนุนจากเทศกาลสงกรานต์ที่หนุนการยอดขายสาขาในต่างจังหวัดและจังหวัดท่องเที่ยว

.

รวมถึงผลบวกจากเศรษฐกิจที่จะขยายตัวหลังการเลือกตั้งในครึ่งหลังของปี และจากค่าใช้จ่ายทางการเงินของ MAKRO ที่ต่ำลงจากการปรับโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้น ทำให้เห็นการขยายตัวได้จากช่วงครึ่งปีแรก

.

ทั้งนี้ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ได้ที่ระดับ +8%/+4% ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา เรามองว่าราคาหุ้นจะสามารถ outperform ต่อได้จากผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าคาดและมีแนวโน้มจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง ที่ช่วยหนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่งจากการเติบโตของ HoReCa

 

 

 


ELEVEN7