ITC กำไรที่อ่อนแอ ยังไม่จบ

ITC กำไรที่อ่อนแอ ยังไม่จบ

ผู้บริหาร ITC ระบุว่าบริษัทฯ กำลังฟื้นตัวและอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต แต่ต้องเผชิญกับการสะดุดในระยะสั้น ประเด็นสำคัญในพูดคุยกับผู้บริหาร ได้แก่ 1) ร้านค้าเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ แจ้ง ITC ว่าสต็อกสินค้าจะกลับมาอยู่ที่ 95% ของระดับปกติภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.2566

2) ปัญหาเงินเฟ้อในยุโรปสร้างแรงกดดันต่อยอดขายปลีกอาหารสัตว์เลี้ยง

3) เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ระดับล่างเป็นการชั่วคราว

4) การได้มาซึ่งคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่รายใหม่จะช่วยผลักดันการเติบโต

5) แผนการลดต้นทุนที่จะช่วยลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อการขายลง 1%

6) การปรับขึ้นราคาขายอีกครั้งในไตรมาส 3/2566 เนื่องจากราคาวัตถุดิบยังคงสูงยืนสูง

มุมมองของเรา แม้ว่าแนวโน้มไตรมาส 2/2566 ดูเหมือนจะแย่กว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่เรายังคงมองว่าไตรมาส 3/2566 จะเป็นจุดเปลี่ยนของ ITC และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่กำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตแบบอิ่มตัว เนื่องจากผู้คนหันมาสนใจสินค้าราคาในระดับกลางมากขึ้น เรามองเห็น downside risk จากแนวทางของผู้บริหารเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ที่ทรงตัวในปี 2566 และคาดว่าผู้บริหารจะลดเป้าการเติบโตของรายได้ในการประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ จากเป้ายอดขายรายเดือนของผู้บริหาร ITC และ AAI และปัจจัยตามฤดูกาล เราคาดว่าตัวเลขการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายเดือนของไทยเดือน พ.ค.2566 จะปรับดีขึ้น MoM

ปรับประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนแนวโน้มการเติบโตไตรมาส 2/2566 เราจึงปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2566 ลง 6.9% โดยลดสมมติฐาน ASP และปริมาณการขายลง 5.5% และเพิ่มประมาณการอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ 40 bps ขณะเดียวกัน เราคงประมาณการ EPS ปี 2567-68 ไว้ตามเดิม

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 26.8 บาท จาก

1) upside ต่อ TP ของเราที่เพิ่มขึ้น

2) การประเมินมูลค่าหุ้นยังคงไม่แพงมากนัก

3) กำไรที่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 66