ห้องเม่าปีกเหล็ก

นิคมอุตสาหกรรมไทยเนื้อหอม

โดย ลำหับ
เผยแพร่ :
181 views

นิคมอุตสาหกรรมไทยเนื้อหอม

นักลงทุนรุมจีบ ดันยอดขายที่ดินพุ่ง

 

.

หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมีปัจจัยบวกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาสำรวจความน่าสนใจของ 3 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น AMATA, WHA และROJNA ที่นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ปี 2566 จะเห็นกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยแรงหนุนมาจากสาเหตุอะไร หาคำตอบได้ในบทความนี้

.

ล่าสุดนายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายปี 66 จะมียอดขายที่ดิน 2,500 ไร่ เติบโตมากกว่า 100% เมื่อเทียบปีก่อนที่อยู่ระดับประมาณ 693 ไร่ แบ่งเป็นยอดขายจากเวียดนามราว 600-700 ไร่ ส่วนที่เหลือมาจากประเทศไทย

.

ทั้งนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว รวมทั้งการเปิดประเทศของจีน และไทย ประกอบกับหลายประเทศที่มีการผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้มองว่าประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีอีกด้วย ขณะที่บริษัทร่วมทุนไทย-จีน ยังมีที่ดินรองรับแล้ว จึงคาดว่าบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ไร่

.

ดังนั้นหากยอดขายเป็นไปตามแผน คาดว่ารายได้รวมปี 66 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน 6,600 ล้านบาท คาดจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 66 กว่า 60% รวมทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากธุรกิจรายได้ประจำเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนนิคมอุตสาหกรรมในสปป.ลาว ขนาดพื้นที่ประมาณ 3-4 พันเฮกตาร์ คาดว่าจะเริ่มพัฒนาในช่วงไตรมาส 2/66

.

AMATA ลูกค้าเพียบ

นักวิเคราะห์บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” AMATA ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท จากการปรับเป้ายอดขาย (presale) ในไทยขึ้นเป็น 1.5 พันไร่ (เดิม 1 พันไร่) สะท้อนการลงทุนที่จะสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Automotive ที่ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ที่ 300-400 ไร่ เพิ่มขึ้น รวมทั้งจะเริ่มเห็นนิคมนาเตยในลาวเริ่มดำเนินงานในปี 66 (ยังไม่ได้ใส่ประมาณการ)

.

อย่างไรก็ตามด้วยเป้ายอดโอน (transfer) ปี 66 ที่ 60% ของ backlog และคาดมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 70% เหมือนอดีตคิดเป็นรายได้จากการขายที่ดินที่ประมาณ 2.9-3.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงคาดที่ 3.55 พันล้านบาท จึงคงประมาณการกำไรปกติปี 66 ที่ 1.5 พันล้านบาท โต 71% จากปีก่อน เนื่องจากยอด transfer ที่ 688 ไร่ และ presale ที่ทรงตัวในระดับสูงที่ 700 ไร่ (สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังปี 56-65 ที่ 660 ไร่) จากการเร่งลงทุนเพื่อรองรับ China relocation ที่เพิ่มขึ้น และได้ผลบวกมาตรการส่งเสริมการผลิตรถ EV และแบตเตอรี่

.

ทั้งนี้คงแนะนำ “ซื้อ” จากยอด presale ที่จะเพิ่มขึ้น และทรงตัวในระดับสูงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ตามการกลับมาเร่งตัวของ China relocation รวมทั้งมีฐานลูกค้าที่สูง และอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูง ทั้ง Automotive, EV supply chain และ datacenter ซึ่งบวกต่อ backlog และยอด transfer ในอนาคต

.

ส่วนนักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า แนะนำ ซื้อ AMATA ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท เป็น Top pick กลุ่มฯ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะในไตรมาส 1/65 มีกำไรพิเศษจากการขาย RBF 10 หลัง ขณะที่ปัจจุบันเหลืออีก 2 หลังที่คาดว่าจะขายในไตรมาส 1/66

.

WHA ปี 66 จะยังขยายตัว

ต่อมา WHA บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท จาก 1. โอกาสที่จะปรับเป้า presale ขึ้นจากเดิมปี 66 ที่ 1.75 พันไร่ (เทียบกับปี 65 ที่สูงถึง 1.9 พันไร่ เนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่อย่าง BYD จำนวน 600 ไร่) จากกลุ่ม EV cluster ที่เร่งการลงทุน, 2.GPM นิคมจะเพิ่มขึ้น ตามการปรับราคาขายขึ้นในช่วงที่มี demand สูง

.

และ 3.ผลการดำเนินงานปี 66 ที่จะยังขยายตัว คงกำไรปกติปี 66 ที่ 3.86 พันล้านบาท โต 18% จากปีก่อน จากยอด transfer ที่ยังสูงถึง 1.3 พันไร่ (แม้จะไม่มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง BYD ที่โอนในปี 65 ที่ 500 ไร่) และยอด presale ที่ทรงตัวสูงที่ 1.6 พันไร่ จาก EV cluster ที่เร่งการลงทุนมากขึ้น

.

อย่างไรก็ตามคงแนะนำ “ซื้อ” จากยอด presale ที่จะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงช่วง 2-3 ปี จากการเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมรถ EV ทั้งผู้ผลิตรถ และแบตเตอรี่ และได้ผลบวก China relocation ที่จะยังคงย้ายฐานการผลิตมาภาคพื้น SEA

.

ROJNA ยอดขายปีนี้ 700 ไร่

สุดท้าย ROJNA นักวิเคราะห์บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท โดยคาดกำไร ROJNA ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด 83% จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของยอดขายและยอดโอนที่ดิน และธุรกิจโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายที่ดินปี 66-67 เป็นปีละ 700 ไร่ จาก 525-600 ไร่ เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม EV, แบตเตอรี่ EV และอิเล็กทรอนิกส์

.

โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรธุรกิจหลักปีนี้ 55% เป็น 703 ล้านบาท และปีหน้า 101% เป็น 804 ล้านบาท เพื่อสะท้อนรายได้จากยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้น 13% ปี 66 และ 24% ปี 67

.

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2% ปีนี้และปีหน้า โดยปรับลดส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัท รัชคารโฮลดิ้ง (ปีละ 100 ล้านบาท) เนื่องจาก ROJNA จะขายหุ้น 50% ให้กับ Gulf Holding (Thailand) Co.,Ltd. ในเดือนมี.ค.นี้

 

 


ลำหับ