ห้องเม่าปีกเหล็ก

ความเหลื่อมล้ำ... ในสมุดบัญชี

โดย poomai
เผยแพร่ :
110 views

ความเหลื่อมล้ำ... ในสมุดบัญชี: คนเงินน้อยมีมาก คนเงินมากมีน้อย

ในยุคที่ใคร ๆ ก็พูดถึงความเหลื่อมล้ำด้านรายได้และโอกาส ยังมีอีกมิติหนึ่งที่สะท้อนภาพนี้อย่างชัดเจน — "ความเหลื่อมล้ำจากบัญชีเงินฝาก" ของคนไทย ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องรายได้ต่อเดือน แต่คือ “โอกาสในการสะสมทุน” ที่ห่างกันลิบโลก

 

 

0.1% ของผู้ฝาก ถือครอง 54% ของยอดเงินทั้งหมด

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2567 ระบุว่า ประเทศไทยมีบัญชีเงินฝากรวมกว่า 137 ล้านบัญชี โดยกว่า 122 ล้านบัญชี (89%) มีเงินไม่เกิน 50,000 บาท ขณะที่บัญชีที่มีเงินฝากเกิน 10 ล้านบาท มีเพียง 0.01% หรือ 173,717 บัญชี แต่กลับถือครองเงินรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของระบบ ตัวเลขนี้ตอกย้ำว่า “คนเงินน้อยมีมาก คนเงินมากมีน้อย” อย่างแท้จริง

 

บัญชีออมแต่ไม่มีเงินออม

เมื่อพิจารณาเฉพาะบัญชีที่ฝากเกิน 3 เดือน — ซึ่งมักเป็นบัญชีที่ใช้ออมเงินมากกว่าหมุนเวียนใช้จ่าย — พบว่า 90% ของบัญชีเหล่านี้ มีเงินฝากเฉลี่ยเพียง 31,603 บาท สะท้อนว่า “ฐานการออม” ของคนส่วนใหญ่ยังเปราะบาง ไม่เพียงพอรับมือเหตุฉุกเฉิน หรือวางแผนระยะยาว

คนไม่เข้าแบงก์ ไม่ใช่เพราะไม่อยากออม แต่เพราะไม่มีอะไรจะออม: นี่คือความจริงที่ซ่อนอยู่ เพราะคนจำนวนมากไม่มีรายได้เหลือพอจะเก็บ แม้จะมีความตั้งใจอยากสร้างความมั่นคงทางการเงินก็ตาม

 

ช่องว่างที่ใหญ่เกินรับได้

บัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่มีเงินเฉลี่ยเพียง 3,824 บาทต่อบัญชี สูงกว่าเส้นความยากจนไม่ถึง 800 บาท ในขณะที่บัญชีที่มีเงินเกิน 500 ล้านบาท มีเงินเฉลี่ยสูงถึง 1,561 ล้านบาทต่อบัญชี — ต่างกันกว่า 400,000 เท่า ช่องว่างนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือช่องว่างของโอกาสและความมั่นคงในชีวิต

 

เศรษฐกิจสองโลก บนแผ่นดินเดียวกัน

ข้อมูลทั้งหมดนี้สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยที่แบ่งออกเป็น “สองโลก” — คนกลุ่มเล็กมีเงินออมล้นมือ ขณะที่คนส่วนใหญ่อาจไม่มีแม้แต่เงินพอจ่ายค่าครองชีพประจำเดือน ช่องว่างนี้กำลังสะสมแรงกดดันในระบบ และอาจกลายเป็นชนวนของความเปราะบางทางเศรษฐกิจระยะยาว

 

เงินฝาก = ต้นทุนแห่งโอกาส

เงินฝากไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี แต่คือ “ต้นทุนแห่งโอกาส” คนที่มีเงินออมสามารถลงทุน ซื้อบ้าน เริ่มธุรกิจ หรือเข้าถึงสินเชื่อในอัตราที่ดี ขณะที่คนไม่มีเงินออมกลับต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยสูง และติดอยู่ในวังวนที่ยากจะหลุดพ้น

ความเหลื่อมล้ำข้ามรุ่น: เริ่มต้นต่างกันตั้งแต่ยังไม่โต

ความเหลื่อมล้ำจากบัญชีเงินฝากยัง “ส่งต่อ” จากรุ่นสู่รุ่น คนที่เกิดในครอบครัวที่มีเงินออมสูง มักได้รับทุนตั้งต้น ทุนการศึกษา หรือทรัพย์สินที่ถ่ายทอดได้ ขณะที่เด็กที่เกิดในครอบครัวไร้เงินออม กลับต้องเริ่มต้นชีวิตโดยไม่มีหลักประกันใด ๆ ความไม่เท่าเทียมนี้จึงฝังรากลึกและยาวนานกว่าที่เห็น

เพราะมันบอกว่า การเริ่มต้นชีวิตของเด็กไทยต่างกันตั้งแต่ยังไม่ทันโต

 

ไทย: เศรษฐกิจมั่นคงบนฐานแคบเกินไป

เมื่อ 0.1% ของบัญชีถือครองเงินถึง 54% ของระบบ หมายความว่าเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนอยู่บนฐานที่แคบมาก ความเปราะบางจึงไม่ได้เกิดจากคนจนเท่านั้น แต่เกิดจาก “โครงสร้างที่ไม่สมดุล” ของระบบเศรษฐกิจโดยรวม

 

แล้วเราจะแก้อย่างไร?

นโยบายที่เน้นเพียง “ส่งเสริมการออม” อาจยังไม่เพียงพอ หากไม่จัดการต้นทุนชีวิตประจำวันที่ทำให้คนไม่สามารถออมได้ตั้งแต่ต้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าดูแลครอบครัว และหนี้เรื้อรัง ต้องควบคู่กับการเพิ่มรายได้ผ่านการพัฒนาทักษะ และระบบสวัสดิการที่ทำให้คนมี “พื้นที่หายใจ” ทางการเงิน โดยเปลี่ยนจาก "ส่งเสริม" สู่ "ออกแบบระบบใหม่"

สิ่งที่หลายประเทศทำสำเร็จคือการ “ออกแบบโครงสร้างการออมที่เท่าเทียม” เช่น:

• หักเงินออมจากเงินเดือน แล้วสมทบโดยรัฐหรือบริษัท

• เปิดบัญชีออมตั้งแต่เกิด พร้อมเงินตั้งต้นจากภาครัฐ

• เก็บภาษีจากบัญชีเงินฝากขนาดใหญ่ เพื่อนำไปสนับสนุนฐานล่างของระบบ

 

ไทยอาจถึงเวลาต้อง “ออกแบบระบบการออมใหม่” ที่เป็นธรรม และรองรับคนทั้งระบบ ไม่ใช่แค่กลุ่มที่มีศักยภาพอยู่แล้ว

 

ตัวเลขดูดี...แต่อาจซ่อนวิกฤติไว้ข้างใต้

เศรษฐกิจมหภาคไทยอาจดูมั่นคง แต่ภายใต้ตัวเลขเหล่านั้น คือประชาชนจำนวนมากที่อยู่ห่างไกลจากโอกาส หากเราไม่เร่งออกแบบระบบที่ทำให้ “ทุกคนมีเงินเหลือพอจะเก็บ” ความเหลื่อมล้ำนี้จะยิ่งลึก และกลายเป็นแรงต้านต่อการเติบโตในวันข้างหน้า

.

เรื่องและภาพ: กุสุมา ธะนะวงศ์ Economist, Bnomics

════════════════

Bnomics - Bangkok Bank Economist, Bnomics

'Be an Economist for Everyone'

วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

════════════════

 

ขอบคุณเนื้อหาข้อมูลจาก.. Bnomics by Bangkok Bank


poomai