Long และ Short เป็นภาษาที่ใช้ในตลาดอนุพันธ์ โดย Long หมายความว่า ซื้อ ส่วน Short หมายความว่า ขาย
ความหมายเพิ่มเติมของคําว่า Long ในที่นี้หมายถึงซื้อและถือในระยะยาว ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทั้งในแง่ Capital Gain และ เงินปันผล
ส่วนความหมายเพิ่มเติมของคําว่า Short ในที่นี้หมายถึงการทํา Short-Selling ( หรือ การทํากําไรขาลงโดยการขายออกไปก่อนแล้ว แล้วซื้อคืนภายหลัง ) ซึ่งจะได้รับประโยชน์เฉพาะ Capital Gain เท่านั้น
Long ที่ยิ่งไหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 1 เป็นการที่ Bill Gates ก่อตั้ง Microsoft แล้วไปเจรจากับ IBM เพื่อที่จะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องติดตั้งระบบปฏิบัติการของ Microsoft และ ประสบผลสําเร็จ แล้ว Microsoft ก็ได้ค่าลิขสิทธ์ในการใช้บริการระบบปฏิบัติการดังกล่าว การ Long ครั้งนี้ ทําให้ Bill Gates เปลี่ยนสถานะจากคนธรรมดาสามัญ เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันที่ 90,000 ล้าน USD
Long ที่ยิ่งไหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 2 เป็นการที่ Warren Buffett เริ่มธุรกิจการลงทุนเมื่อ ปี ค.ศ 1956 ด้วยเงินเริ่มต้น 100 USD โดยการลงทุนแบบเน้นคุณค่า 30% และ เน้นการเติบโต 70% จนกระทั่งเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันที่ 84,000 ล้าน USD
Short ที่ยิ่งไหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 1 เป็นการที่ John Paulson ทําการ Short-Selling Subprime Assets ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ 2008 แล้วได้กําไร 15,000 ล้าน USD ในหนึ่ง Theme หรือ หนึ่ง Story
Short ที่ยิ่งไหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 2 เป็นการที่ George Soros ทําการ Short-Selling ค่าเงินปอนด์ของประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ 1992 แล้วได้กําไร 2,000 ล้าน USD ในหนึ่ง Theme หรือ หนึ่ง Story
หมายเหตุ : ปัจจุบันมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกตกเป็นของ Jeff Bezos เจ้าของ Amazon ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ถือครองที่ 112,000 ล้าน USD ส่วน Bill Gates หล่นลงมาเป็นอันดับ 2 และ Warren Buffeff หล่นลงมาเป็นอันดับ 3 ตามลําดับ