IRPC ลั่นปี 66 ธุรกิจพ้นจุดต่ำสุด

IRPC ลั่นปี 66 ธุรกิจพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

หลังความต้องการใช้ในจีนฟื้น

ตั้งเป้า EBITDA ปี 68 แตะ 2.5 หมื่นลบ.

.

IRPC ปักธงปี 68 ดัน EBITDA แตะ 2.5 หมื่นล้านบาท และปี 73 เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท เตรียมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เดิมและขยายธุรกิจใหม่รูปแบบร่วมทุนพันธมิตร-เข้าซื้อกิจ พร้อมชี้ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดปี 66 เริ่มฟื้นตัว มอง Market GIM ปีนี้ที่ 13-14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

.

นางสาว กัญญามาส ฤทธิเดช ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจในปี 2568 จะมี EBITDA อยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท และภายในปี 2573 จะอยู่ที่ 3.5หมื่นล้านบาท ตามการขยายตัวของธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่

.

โดยตัวธุรกิจเดิมในกลุ่มปิโตรเคมีบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มชนิดพิเศษ (Specialty) เป็น 52% ภายในปี 2568 ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นจะมีการอัพเกรดให้มีมูลค่ามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้าง โครงการ UCF ที่จะดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2567 และจะช่วยให้ราคาขายน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น

.

ด้านการขยายเข้าไปยังธุรกิจใหม่ที่ยังคล้ายคลึงกับธุรกิจเดิมผ่านการร่วมทุนกับพันธมิตรและการเข้าซื้อกิจการ โดยบริษัทจะเจาะเข้าไปยัง 5 ธุรกิจ ประกอบไปด้วย ธุรกิจเฮลธ์แอนด์ไลฟ์( Health & Life Science) ,ธุรกิจวัสดุชั้นสูง(Advanced Material) ,ธุรกิจการทำธุรกิจแบบหมุนเวียน(Circular Business) , ธุรกิจพลังงานรูปในอนาคต และแผงกั้นแบตเตอรี่

.

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2566 บริษัทคาดว่าจะเข้าสู่การฟื้นตัวอย่างนัยสำคัญ หลังจากผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2565 โดยปัจจัยหนุนในปีนี้จะมาจากความต้องการใช้ภายในประเทศจีนที่ฟื้นตัวกลับมาหลังจากกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ Market GIM มาอยู่ 13-14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

.

ขณะเดียวกันกำลังการผลิตของบริษัทจะสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ปกติภายในปีนี้ ซึ่งนอกจากนี้บริษัทจะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ต ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการขายของผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มชนิดพิเศษ (Specialty)ให้มากขึ้นซึ่งคาดว่าจะขึ้นมาเป็น 33% ในปีนี้

.

ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนงบลงทุน 5 ปี ไว้ราว 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้หรือปี 2566 ได้วางงบลงทุนไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้รองรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอย่าง โครงการ UCF รวมไปการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการเดิม ซึ่งจะมีบางส่วนที่ใช้รองรับการทำดีลเข้าซื้อกิจการ