BANPU เริ่มรับรู้รายได้จากแหล่งก๊าซ"บาร์เนตต์"

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 กำลังการผลิตดีกว่าไตรมาส 1/65 ซึ่งบริษัทคงเป้าปี 68 จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน (Green Business) มีสัดส่วนมากกว่า 50%จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนต่ำกว่า 40%

.

สำหรับการเข้าซื้อ XTO Barnett Shale Gas ยืนยันว่าเป็นการเข้าซื้อกิจการในราคาที่เหมาะสม เพราะการประเมินมูลค่าไม่ได้ใช้ราคาก๊าซที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเริ่มเจรจากับผู้ขายมามาหลายปีแล้ว ทั้งนี้การซื้อ XTO Barnett Shale Gas บริษัทฯ จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากทรัพย์สินของ XTO Barnett ตั้งอยู่ใกล้กับทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วของ BANPU ในแหล่ง Barnett จึงคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าจาก synergy ได้เพิ่มขึ้น เพราะมีทั้งระบบขนส่งทางน้ำ มีโอกาสบริหารเองด้วยและเป็นเจ้าของเองด้วย จึงมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่ามากสุดและได้ประโยชน์มากสุด

.

โดยคาดครึ่งปีหลังจะเริ่มรับรู้รายได้จากทรัพย์สินของ XTO Barnett ที่ซื้อเข้ามาใหม่ คาดเซ็นสัญญาปิดดีลในเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจึงจะสามารถบอกได้ว่า จะปรับประมาณการ EBITDA เป็นเท่าไร รวมถึงอัพไซด์ที่จะมีต่อบริษัท เพราะเมื่อดีลนี้จบ ปริมาณการผลิตก๊าซสุทธิจะเพิ่มขึ้น และจะเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในแหล่ง Barnett

.

นายวิรัช วุฒิธนาเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ สายอาวุโส-กลยุทธ์องค์กร (Corporate Strategy) BANPU กล่าวว่า มองแนวโน้มตลาดสหรัฐฯปริมาณสำรองก๊าซยังอยู่ระดับต่ำ ซัพพลายตึงตัวและจะเข้าฤดูหนาวจะทำให้ราคาก๊าซปรับสูงขึ้นอีก คาด 2-3 ไตรมาสข้างหน้ายังเห็นราคาก๊าซผันผวนระดับสูงเป็นโอกาสที่ดีของบ้านปู ขณะที่ Barnett Shale Gas จะเข้ามาในครึ่งปีหลังด้วย

.

ส่วนราคาถ่านหินปัจจุบันอยู่ที่ 400 เหรียญฯต่อตัน ยังสูงอยู่ มองครึ่งปีหลังยังเห็นปัจจัยซัพพลาย ดีมานด์ ซัพพอร์ตอยู่และการ disruption ของ supply chain จึงมองราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังยังทรงตัวระดับสูงต่อไป