1) ตลาดกระทิง ( 2 ปี ) : โดยมีระยะเวลาตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ที่จะทําให้ดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในสภาวะกระทิง :
1.1) ปัจจัยที่สําคัญที่สุด 3 ประการที่กําหนดทิศทางดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลกให้อยู่ในสภาวะกระทิงโดยการควบคุมเพื่อที่จะ " จงใจสร้างราคา หรือปั่นหุ้น " โดย " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่างเอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " มีดังนี้คือ :
1.1.1) เฟด ให้มีการผ่อนคลายนโยบายทางด้านการเงิน
1.1.2) จีน เพื่อที่จะยอมให้มีการเจรจาการค้าตกลงกันได้โดยไม่จําเป็นต้องเพิ่มกําแพงภาษีอีกต่อไป
1.1.3) โอเปค เพื่อให้ราคานํ้ามันตํ่า และจะทําให้เงินเฟ้อตํ่าไปด้วย และจะเป็นเหตุผลสําคัญที่เฟดจะได้ไม่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate และจะยังคงนโยบายทางด้านการเงินที่ผ่อนคลายเหมือนเดิมต่อไป
1.2) กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุน คือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย เพราะ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่างเอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จะทําการ " จงใจสร้างราคา หรือปั่นหุ้น " โดยการ :
1.2.1) ทําสงครามการค้ากับจีน แล้วทําให้เกิดการย้ายฐานการลงทุนจากประเทศจีนไปยังประเทศอื่นๆรวมทั้งประเทศไทยด้วย และไปกดดันให้รัฐบาลของประเทศไทยต้องเร่งรีบผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท และเขตเศรษฐกิจอีอีซี ( EEC ) ซึ่งจะเป็นผลดีกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโดยรวม
1.2.2) ทําให้ราคานั้ามันตํ่า โดยการเข้าแทรกแซงโอเปคไม่ให้ลดกําลังการผลิต และสนับสนุนอุตสาหกรรม Shale Oil Shale Gas และถ่านหินในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโดยรวม เช่นเดียวกัน
2) ตลาดหมี ( 1 ปี ) : โดยมีระยะเวลาหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 แล้วไปจนถึงปี พ.ศ 2564 ทั้งปี ที่จะทําให้ดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ใน สภาวะหมี :
2.1) ปัจจัยที่สําคัญที่สุด 3 ประการที่กําหนดทิศทางดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลกให้อยู่ในสภาวะหมี :
2.1.1) เนื่องจาก " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ได้ทุ่มเทพลังกําลัง ในการ " จงใจสร้างราคา หรือปั่นหุ้น " ดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลก ขึ้นไปอยู่ยอด " ดอยเอเวอเรสต์ " แล้ว เพื่อให้ตัวเองได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกสมัยหนึ่งแล้ว และตัวเองก็ได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแล้วจริงๆ จึงจําเป็นอยู่เองที่น่าจะเป็นขาลงบ้าง
2.1.2) ดาวโจนส์และตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในสภาวะกระทิงตั้งแต่ปี พ.ศ 2550 แล้ว และในปี พ.ศ 2564 ก็จะครบ 14 ปีแล้ว ก็น่าจะเป็นเวลาของตลาดหมีบ้าง
2.1.3) ฟองสบู่โลกแตก เนื่องจากปัญหาหนี้สินท่วมโลก
2.2) กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุน คือ SET 50 โดยการ ชอร์ต Set 50 Derivatives ในช่วงตลาดขาลง
หมายเหตุ : 1) ระยะเวลาของตลาดหมีในปี พ.ศ 2564 น่ากินเวลาประมาณ 1 ปี โดยการเทียบเคียงกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี พ.ศ 2551
2) กําหนดการดังกล่าวข้างต้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
3) " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " น่าจะ " จงใจสร้างราคา หรือปั่น " ดังนี้ คือ :
3.1) ดาวโจนส์จาก 18,333 จุด ( ปัจจุบันอยู่ที่ 26,026 จุด ) และ Set Index 1,510 จุด ( ปัจจุบันอยู่ที่ 1,641 จุด ) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ไปอยู่ที่อย่างน้อย 30,000 จุด ( อย่างน้อย 63.64% ของ 18,333 จุด ) และอย่างน้อย 2,471 จุด ( อย่างน้อย 63.64% ของ 1,510 จุด ) ตามลําดับ ในวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 หนึ่งวัน
3.2) CONS ซึ่งเป็นหมวด/กลุ่มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างที่กําหนดไว้ใน ( www.settrade.com ) จาก 85.87 จุด ( ปัจจุบันอยู่ที่ 88.95 จุด ) ซึ่งเป็นจุดตํ่าสุดในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 ไปอยู่ที่อย่างน้อย 141 จุด ( อย่างน้อย 63.64% ของ 85.87 จุด ) ในวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 หนึ่งวัน
4) ผู้โพสต์ขอเรียนให้ทุกท่านที่สนใจได้รับทราบว่า ผู้โพสต์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะชักชวน หรือชี้นําให้ท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน หรือ เข้ามา View มาลงทุนตามแนวทางที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอไป และ จะนําเสนอต่อไปในอนาคต และจะไม่รับประกันผลตอบแทน ตลอดจนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่มีการนําข้อมูล หรือความเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์ไปใช้แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้โพสต์หวังแต่เพียงว่าข้อมูล และความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวข้างต้นของผู้โพสต์ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู และ เข้ามา View บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจติดตาม