ปีหน้าสหรัฐฯและไทยฯรุ่ง ส่วนยุโรป, จีนและญี่ปุ่นร่วง

ปีหน้าสหรัฐฯและไทยฯรุ่ง ส่วนยุโรป, จีนและญี่ปุ่นร่วง :

จากการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าคือปี 2023 ของผู้โพสต์เอง พอที่จะสรุปได้ว่า :

1…) สหรัฐฯ : เติบโตต่อเนื่องจากปี 2022 เพราะสภาวะการจ้างงานดี อัตราการว่างงานต่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง และ Fed Fund Rate น่าจะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในปีหน้าคือปี 2023 และที่สำคัญเงินทุนยังไหลเข้าไปท่วมสหรัฐฯรวมทั้ง Dow Jones จากดอกเบี้ยที่สูงกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขานั่นเอง

2…) ไทย : เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะการจ้างงานดี อัตราการว่างงานต่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในปีหน้าคือปี 2023 นอกจากนี้ยังได้อานิสงค์จาก Fund Flow, FDI, การท่องเที่ยวจากการที่จีนจะเปิดประเทศ และการเลือกตั้งทั่วไปของไทย

3…) ยุโรป : ยังเจอปัญหาเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น จากสภาวะสงครามรัสเซีย- ยูเครนที่ยืดเยื้อยานนานกว่าที่คิด ดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามเงินเฟ้อไป ปัญหาที่ยุโรปเจอและยังแก้ไม่ตกอีกปัญหาหนึ่งที่ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ปี 2011 คือปัญหาหนี้สาธารณะฯ 

4…) จีน : ยังเจอปัญหาจากนโยบาย Zero Covid, หนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ฯ, การ Ban สินค้า High Tech. จากสหรัฐฯและการห้ามขาย Chip Computer ขั้นสูงจากสหรัฐฯไ้ปจีน

5)…) ญี่ปุ่น : ยังเจอปัญหาค่าเงินเยนอ่อนค่า เศรษฐกิจไม่โตจากปัญหาเดิมๆที่หมักหมมมาเป็นเวลานานตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินของญี่ปุ่นในปี 1990 แล้ว

สินทรัพย์ที่ควรลงทุนเมื่อมีการย่อตัวคือดัชนี Dow Jones, Set Index และคริปโตฯได้แก่ Bitcoin, XRP, Dogecoin และ LUNC