ห้องเม่าปีกเหล็ก

รวยในแบบธุรกิจครอบครัว

โดย Sunnyday
เผยแพร่ :
61 views

รวยในแบบธุรกิจครอบครัว

 

การบริหารความมั่งคั่งของธุรกิจครอบครัวมีความแตกต่างจากธุรกิจทั่วไปอย่างมากเพราะมีการวางแผนที่ยาวนานกว่าและมุ่งเน้นที่การรักษาเงินทุนเอาไว้ให้กับคนรุ่นต่อไป นอกจากนี้ยังให้ความสนใจเท่าเทียมกันทั้งในประเด็นที่เกี่ยวกับครอบครัวและความมั่งคั่ง เนื่องจากการตัดสินใจลงทุนควรสอดคล้องกับค่านิยมหลักของครอบครัวด้วยความตั้งใจที่จะสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไป ดังนั้นการบริหารความมั่งคั่งจึงมีความสำคัญมากในการรักษามรดกของครอบครัวและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเมื่อธุรกิจครอบครัวมีการเติบโตและมั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ธุรกิจครอบครัวมักมีคำกล่าวถึงคำสาปรุ่นที่ 3 ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ที่ความมั่งคั่งของครอบครัวสูญสิ้นไปในรุ่นที่ 3 ของธุรกิจ เมื่อธุรกิจก่อตั้งขึ้นในรุ่นที่ 1 เริ่มสร้างฐานความมั่งคั่ง ต่อมารุ่น ที่ 2 เสริมสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวและพัฒนาธุรกิจโดยยึดตามค่านิยมและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นก่อน จนกระทั่งเมื่อถูกส่งต่อมายังรุ่นที่ 3 ซึ่งขาดแรงจูงใจจากรุ่นก่อน แม้ว่าปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องทั่วไปที่พบกันมาก แต่ทุกครอบครัวก็ไม่ได้สูญเสียความมั่งคั่งในลักษณะนี้ไปเสียหมด บ่อยครั้งที่สาเหตุความมั่งคั่งในครอบครัวหมดไปเพราะขาดคำแนะนำจากผู้ก่อตั้งเกี่ยวกับวิธีการจัดการความมั่งคั่งหลังจากที่เขาวางมือไปแล้ว

เจ้าของธุรกิจครอบครัวเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายด้วยเหตุที่อายุยังน้อย ซึ่งลูกของพวกเขามีสิทธิได้รับความมั่งคั่งของครอบครัวและอาจขาดแรงจูงใจในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าพ่อแม่ควรพัฒนาความสัมพันธ์ในการเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ เช่น คนรุ่นต่อไปควรได้รับการสอนให้รับผิดชอบในการรักษาความมั่งคั่งของครอบครัวและส่งต่อให้เป็นของขวัญแก่คนรุ่นต่อไป ทั้งนี้การบริหารความมั่งคั่งในครอบครัวที่ประสบความสำเร็จมักต้องการกระจายความมั่งคั่งออกไป นอกจากนี้การกำกับดูแลกิจการที่ดีก็เป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้พอร์ตการลงทุนมีความหลากหลายยิ่งขึ้นซึ่งนำไปสู่ผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีขึ้น

 

 

จากการศึกษาพบว่าธุรกิจครอบครัวขนาดเล็กมีแนวโน้มที่จะมีความมั่งคั่งในธุรกิจเดียวได้โดยไม่ต้องลงทุนนอกธุรกิจของตน ทั้งนี้พอร์ตการลงทุนของครอบครัวจะแยกออกจากกิจกรรมทางธุรกิจและได้รับการปกป้องเพื่อประโยชน์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งการลงทุนเหล่านี้สามารถฝากไว้ในบริษัทที่แยกออกมาซึ่งมีการจัดสรรหุ้นให้สมาชิกในครอบครัวโดยมีสิทธิผู้ถือหุ้นที่แตกต่างกันตามระดับการมีส่วนร่วมและบทบาทในธุรกิจ และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นกลาง บริษัทนี้ควรมีการจัดการโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกครอบครัว และเมื่อการดำเนินธุรกิจถูกถ่ายโอนจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง สมาชิกที่ต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจครอบครัวอาจแบ่งการดำเนินงานออกเป็นส่วนๆ ตามความสนใจและความสามารถส่วนตัว ซึ่งการแยกกิจกรรมการดำเนินงานออกจากความมั่งคั่งของครอบครัวทำให้มั่นใจได้ว่าแม้ว่าแผนกปฏิบัติการหนึ่งจะไม่ประสบความสำเร็จอีกต่อไป แต่ความมั่งคั่งที่สะสมมาจากคนรุ่นก่อนจะได้รับการปกป้องไว้

 

นอกจากนี้การจัดตั้งทรัสต์ของครอบครัวยังสามารถช่วยรักษาความมั่งคั่งของครอบครัวได้โดยการรวมความมั่งคั่งเอาไว้ แทนที่จะปล่อยให้กระจัดกระจายไปกับคนรุ่นใหม่แต่ละรุ่น และทรัสตีมืออาชีพก็สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าจะทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและความมั่งคั่งจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ขณะที่ในอีกทางหนึ่งครอบครัวที่รํ่ารวยมักจัดตั้งสำนักงานครอบครัวขึ้นเพื่อบริหารความมั่งคั่ง และช่วยพัฒนาแผนในอนาคตและให้บริการเป็นที่ปรึกษา โดยสำนักงานครอบครัวเดี่ยว (single-family office) จะให้บริการกับครอบครัวเดี่ยวเท่านั้น ขณะที่สำนักงานหลายครอบครัว (multi-family offices) จะให้บริการกับหลายครอบครัว โดยสำนักงานครอบครัวสามารถช่วยธุรกิจครอบครัวในเรื่องของ 1) รวมศูนย์บริการเฉพาะด้านและจัดการตามความต้องการของธุรกิจ 2) เพิ่มความโปร่งใส 3) ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีเวลาในการมุ่งโฟกัสการดำเนินธุรกิจมากขึ้น 4) เสริมสร้างการสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัวและจัดการความคาดหวังที่แตกต่างกัน 5) ให้ความรู้แก่สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามการถ่ายโอนธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและการรักษาความมั่งคั่งของครอบครัวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทักษะและความปรารถนาที่จะทำธุรกิจได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ขณะที่การขาดความทุ่มเทและขับเคลื่อนการรักษามรดกของครอบครัวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขัดขวางกระบวนการสืบทอดกิจการ ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้

1) ให้ความรู้แก่ลูกๆเรื่องความรับผิดชอบในการรักษาความมั่งคั่งของครอบครัว

2) ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางธุรกิจและการเปิดให้เห็นการดำเนินงานในปัจจุบัน

3) การพัฒนาโครงสร้างการกำกับดูแลเพื่อควบคุมการมีส่วนร่วมในธุรกิจของสมาชิกในครอบครัว

4) การจัดทำแผนการสืบทอดกิจการซึ่งจะให้คำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทที่สมาชิกในครอบครัวควรดำเนินการหลังการวางมือของผู้ก่อตั้ง

5) ก่อตั้งทรัสต์กำหนดวิธีการป้องกันไว้ (protective trust) เพื่อกำหนดแนวทางการใช้ความมั่งคั่งของครอบครัว

นอกจากนี้โครงสร้างการกำกับดูแล เช่น ธรรมนูญครอบครัว (family charter) ยังสามารถควบคุมการมีส่วนร่วมของสมาชิกในครอบครัวโดยการกำหนดเงื่อนไขซึ่งจำเป็นต้องได้รับความพึงพอใจจากคนที่ต้องการทำงานในธุรกิจ โดยเงื่อนไขเหล่านี้อาจรวมถึงการมีคุณสมบัติเฉพาะและประสบการณ์จากการทำงานนอกธุรกิจครอบครัวอีกด้วย ซึ่งธุรกิจครอบครัวสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ของตัวเองไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจต่อไป 

 

ที่มา : Reference: Farrugia, Maria. 2017. WEALTH MANAGEMENT OF FAMILY BUSINESSES. Available: https://theaccountant.org.mt/wealth-management-of-family-businesses/More information:famz.co.th

คอลัมน์ | ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล : คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ([email protected])

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


Sunnyday