KKP Credit cost ที่ลดลงกับการเติบโตของธุรกิจ Wealth
Credit cost กลับสู่ระดับปกติ
เราคาดว่า credit cost ที่กลับสู่ระดับปกติจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปี 68-70 โดยที่สต๊อกรถยนต์ถูกยึดที่ถูกควบคุมอย่างดีและการลดความเสี่ยงของสินเชื่อ HP เริ่มเห็นผลแล้ว
การลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ
หลังจากที่ ธปท.เตรียมเข้าควบคุมดูแลสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ในเดือน ธ.ค. 2568 เรามองว่า KKP มีแนวโน้มที่ดีกว่าในการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวโดยไม่กระทบต่อกำไร และอาจได้รับส่วนแบ่งจากคู่แข่งที่ไม่ใช่ธนาคารที่อ่อนแอกว่า
เราเชื่อว่า KKP พร้อมที่จะกลับมาเติบโตในพอร์ตสินเชื่อ HP อีกครั้งจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยนับตั้งแต่ปี 2566 KKP ได้เจตนาชะลอการเติบโตของสินเชื่อ HP โดยลดสินเชื่อลง 7.8% ในปี 2567 พร้อมกับเพิ่มมาตรฐานสินเชื่อต่อสินเชื่อรวม (LTV) ที่เข้มงวดขึ้น และเน้นเฉพาะลูกค้าที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น โดยสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) ของสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ลดลงเหลือ 3.1% ในครึ่งแรกของปี 2568 จาก 3.3% ในไตรมาส 4/2567
มุมมอง KS : เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ขึ้นเป็น 63 บาท จาก 60 บาท โดยรวมโครงการซื้อหุ้นคืน 16 ล้านหุ้นล่าสุดไว้ในประมาณการของเรา ส่งผลให้ ROE ระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็น 9.0% จาก 8.9% และ EPS ต่อ เงินปันผลต่อหุ้น (DPS) สูงขึ้น เราคาดว่ามูลค่าหุ้นยังมีปัจจัยกระตุ้นจากการที่ KKP มีการเพิ่มรายได้ non-NII ต่อเนื่อง และอาจเข้าไปใกล้เคียงกับโครงสร้างรายได้ของธนาคารชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ซื้อขายด้วย PBV สูงกว่า 1 เท่าได้ในระยะยาว
