Crude Power... เมื่อน้ำมันยังคงกำหนดระเบียบโลก
แม้โลกจะเดินหน้าสู่พลังงานสะอาด แต่ “ระเบียบโลกในวันนี้... ยังขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน”
น้ำมันไม่ได้เป็นเพียงแค่สินค้าโภคภัณฑ์ แต่มันคือเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ สะท้อนความกลัว อำนาจต่อรอง ซึ่งล้วนกระทบทั้งราคาหน้าปั๊มและเศรษฐกิจทั่วโลก

ราคาน้ำมัน = ความกลัว ไม่ใช่แค่ความขาดแคลน
มิถุนายน 2025: Brent พุ่งทะลุ $81 ภายใน 10 วัน หลังอิสราเอลโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่าน และสหรัฐฯ ถล่มฐานทัพ
แม้อุปทานยังไม่หยุดชะงัก แต่อิหร่านขู่ปิด “ช่องแคบฮอร์มุซ” จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่น้ำมันดิบเกือบ 1 ใน 5 ของโลกต้องผ่าน
- Goldman Sachs ประเมินว่าตลาดได้บวก “พรีเมียม” เข้าไปแล้วประมาณ $10
- JPMorgan เตือนว่า หากช่องแคบถูกปิดจริง ราคาน้ำมันอาจทะลุ $120–130 ต่อบาร์เรล
บทเรียนจากปี 2022: รัสเซียบุกยูเครน จุดเปลี่ยนพลังงานโลก
เมื่อรัสเซียบุกยูเครนราคาน้ำมันพุ่งเกิน $120 ทันทีที่รถถังเคลื่อนพล
ยุโรปเร่งหาทางลดการพึ่งพา
จีน-อินเดียรับช่วงซื้อน้ำมันรัสเซียในราคาส่วนลด
ผลกระทบกระจายทั่วโลก ทั้งค่าพลังงาน ค่าขนส่ง และเงินเฟ้อพุ่ง
Maciej Kolaczkowski จาก WEF สรุปชัด “ราคาพลังงานกระทบต้นทุนแทบทุกสินค้า”
ตะวันออกกลาง: จุดยุทธศาสตร์ของโลกพลังงาน
- 5 จาก 10 ประเทศผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดอยู่ในภูมิภาคนี้
- ซาอุฯ อิหร่าน อิรัก UAE คูเวต รวมกันถือครองสำรองน้ำมันมากกว่าครึ่งของโลก
- OPEC+ ยังควบคุมราคาก๊าซธรรมชาติ
แม้สหรัฐฯ หรือบราซิลจะเร่งผลิตพลังงานจากชั้นหินดินดานหรือแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่ง แต่ยังสู้ต้นทุนตะวันออกกลางไม่ได้
เอเชีย = แรงขับเคลื่อนอุปสงค์
จีน อินเดีย และอาเซียน บริโภคน้ำมันรวมกันมากกว่า 40% ของโลก
แม้ยุโรป-สหรัฐฯ พยายามเดินหน้าลดคาร์บอน แต่ภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในเอเชียยังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น
น้ำมัน = แรงส่งผ่านเงินเฟ้อ
เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ผลกระทบไม่ได้อยู่แค่ที่หน้าปั๊ม แต่หมายถึง:
ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่ม
ราคาสินค้าแพงขึ้น
กำลังซื้อครัวเรือนลด
ดอกเบี้ยสูงขึ้นทั่วโลก
เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด
ไม่มีใครรอด แม้แต่ผู้ผลิต
ไม่มีประเทศใดรอดพ้น แม้แต่ผู้ผลิตน้ำมันเอง
หากช่องแคบฮอร์มุซถูกปิด ราคาน้ำมันที่ปั๊มในเท็กซัสจะพุ่งขึ้นไม่ต่างจากที่โตเกียว เพราะน้ำมันซื้อขายในตลาดโลกผ่านมาตรฐานอย่าง Brent และ WTI
ยุโรปที่ลดการพึ่งพารัสเซีย ก็ต้องเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการพึ่งพา LNG จากตะวันออกกลาง
พลังงานสะอาด = อนาคต แต่วันนี้ยังพึ่งน้ำมัน
แผงโซลาร์เซลล์และกังหันลมกำลังมา แต่โลกยังอยู่ใน “ช่วงเปลี่ยนผ่าน”
น้ำมันจึงยังเป็นทั้ง:
โล่ป้องกันเศรษฐกิจ
อาวุธเชิงยุทธศาสตร์
ดัชนีของความเปราะบางทางภูมิรัฐศาสตร์
บทสรุปที่ไม่อาจมองข้าม
แม้โลกจะฝันถึงพลังงานสะอาด แต่ระเบียบโลกยังไม่เปลี่ยน เรายังต้องอยู่กับความจริงของ “ภูมิรัฐศาสตร์น้ำมัน”
เสถียรภาพพลังงานในอนาคต… ต้องอาศัยทั้งแหล่งน้ำมันวันนี้ และเทคโนโลยีที่จะพาเราไปให้ไกลกว่านั้น
.
เรื่องและภาพ: พรปวีณ์ ธรรมวิชัย Economist, Bnomics
════════════════
ขอบคุณเนื้อหาที่มาจาก.. Bnomics by Bangkok Bank