เก็บเงินไว้ช้อน 4 กลุ่ม หุ้นปลอดเชื้อ นักวิเคราะห์แนะ รอซื้อที่ราคานี้

เก็บเงินไว้ช้อน 4 กลุ่ม หุ้นปลอดเชื้อ นักวิเคราะห์แนะ รอซื้อที่ราคานี้

หลังจากที่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในรอบที่สองเกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาครจึงทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก เพราะการประกาศตัวเลขของผู้ติดเชื้อมีมากกว่าระดับ 300-500 ราย จนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ 21 ธ.ค.ปิดตลาดในแดนลบลดลงกว่า 80 จุด ท่ามกลางภาวะตลาดที่เหมือนเกิดเหตุการณ์วิตกกังวลว่าจากนี้แล้วจะเป็นอย่างไร ไม่เพียงแค่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการระบาดในครั้งนี้ แต่หุ้นทุกกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบก็พลอยโดยเทขายไปตามๆกัน

แต่อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นที่ปลอดเชื้อจากการระบาด และคาดราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้เร็ว จำนวน 5 กลุ่มที่ทาง Wealthy Thai ได้รวบรวมมาจากการบรรยายของ บริษัท หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กลุ่มที่ 1 ได้แก่กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี สาเหตุที่ราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้เร็ว คือเรื่องของดีมานด์ที่ฟื้นตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ และในอนาคตยังมีความต้องการต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มนี้ถือว่าปัจจัยภายใประเทศไม่ได้รับผลกระทบมากนักในแง่ของผลกระทบเชิงลบจะไม่มาก อีกทั้งกลุ่มโรงงานส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในนิคมที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้แรงงานคนไทยที่มีความสามารถสูง ทำให้มีผลกระทบจากปัญหาแรงงานน้อย จึงเชื่อว่าเป็นกลุ่มหากราคาลดลงก็ควรจะต้องซื้อ โดยเลือก PTTGC หากราคาลงมาที่แนวรับ 56 ก็เข้าซื้อได้ ,IVL ถ้าราคาลงมา 34.50 บาทก็เข้าซื้อได้

กลุ่มที่ 2 โกลบอล โลจิสติกส์ เป็นกลุ่มที่โควิด 19 ไม่ได้รับผลกระทบต่อดีมานด์ของการขนส่งระหว่างประเทศ WICE SONIC LEO กลุ่มนี้โดนผลกระทบแค่ในเชิงลบจากภาวะตลาดที่ปรับลดลง แต่ในแง่ของผลประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยหุ้นกลุ่มส่งออกในชุดนี้พึ่งพิงการส่งออกของโลกที่กำลังฟื้นตัว เช่น WICE ที่เน้นการส่งออกสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าราคาลงมา 4.80 บาท ก็สามารถเข้าซื้อได้ ส่วนหุ้น LEO และ SONIC ที่มีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งสินค้าทางทะเลเป็นหลักกว่า 60% ซึ่งขณะนี้ถือว่าการขนส่งทางทะเลกำลังอยู่ในทิศทางที่ดี หากราคาหุ้น LEO ปรับลดลง 5.60 บาทก็สามารถเข้าซื้อได้ ส่วน SONIC หากราคาลดลงไปที่ 1.55 บาทก็สามารถเข้าซื้อได้

กลุ่มที่ 3 กลุ่มซ่อมแซมและปรับปรุงบ้าน ก่อนหน้านี้หุ้นในกลุ่มนี้ได้ประโยชน์จากการที่คนอยู่บ้าน แล้วก็จะซื้อสินค้าปรับปรุงตกแต่งบ้าน ขณะเดียวกันหากมองย้อนกลับไป กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นักลงทุนสถาบันซื้อหุ้นมาเยอะในช่วงที่ผ่านมา และหลังจากที่มีข่าววัคซีนออกมา หุ้นกลุ่มดังกล่าวได้รับการโลเตชั่น และจากนี้ไปคนจะกลับมา Work from Home ก็อาจจะทำให้ได้รับประโยชน์ ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลงมาก็ถือว่าน่าสนใจ โดย HMPRO มองที่ราคา 14 บาท DOHOME ถ้าลงมาราคา 13 บาทก็เข้าซื้อได้ ส่วน GLOBAL ถ้าลงมาระดับ 17 บาท

กลุ่มที่ 4 อสังหาริมทรัพย์แนวราบ เป็นกลุ่มได้พิสูจน์แล้วว่าโควิดไม่ได้กระทบต่อความต้องการในการซื้อบ้านเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเดี่ยวที่เป็นระดับไฮเอน ซึ่งมองว่าถ้าลงมาต้องซื้อ นอกเหนือจากผลประกอบการที่ยังดีอยู่แล้วก็ยังมีเรื่องของอัตราเงินปันผลในระดับสูง

โดย LH มีอัตราจ่ายเงินปันผลระดับ 8-9% ขณะที่ SC ระดับ 6% ถือว่าอยู่ในจุดที่น่าสนใจถ้ามองธีม หากมองการเล่นหุ้นกลุ่มอัตราเงินปันผลอีกครั้ง ซึ่งกลุ่มนี้ก็ถือว่าโดดเด่นและตอบโจทย์ โดยนักลงทุนสถาบันชอบการเล่นหุ้นประเภทนี้ ฉะนั้นในช่วงปลายเดือนธันวาคม และมกราคม นักลงทุนสถาบันจะเริ่มมาเก็บหุ้นเพื่อเอาปันผล และมีประเด็นบวก คือผู้ประกอบการยืน 5 ข้อเรียกร้องให้กับรัฐบาลในการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกับการลดจดจำนอง มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐจะช่วยเหลือ โดย LH ราคาที่น่ารับ 8 บาท ส่วน SC สามารถรอรับที่ราคา 2.80 บาท

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก