ตลาดหุ้นวันนี้ผันผวนสูง ต่างชาติยังไหลออก แนะ 8 หุ้นเด่น กำไรโค้งแรกเติบโต
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET แกว่งตัว 1,585 - 1,605 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 5.25% ในการประชุม 2 -3 พ.ค.ยังคงกดดัน Fund flow ให้เป็นลบและส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวนสูง อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวรวมถึงการซื้อดักงบไตรมาส 1/66 ที่กำลังจะทยอยประกาศจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
โดยกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy หุ้นคาดการณ์งบ ไตรมาส 1/66 เติบโตขึ้น อาทิ BBL KTB KBANK SCB ADVANC INTUCH BCH WHAUP อานิสงส์เงินฟ้อไทยชะลอตัวลง SAWAD MTC KTC ASK
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ CPALL (ปิด 63 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72.75 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของ จาก SSSG ที่เพิ่ม โดยเฉพาะสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยว แนวโน้มไตรมาส 2/66 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง
อีกทั้ง GPSC (ปิด 67.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74 บาท) มีข่าวดี Avaada Energy ซึ่ง GPSC ถือหุ้น 42.93% ชนะประมูลงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 560MW ในประเทศอินเดียฯ คาดเพิ่ม MW Growth ให้กับ GPSC ได้ประมาณ 4-5%
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้ TISCO แจ้งงบไตรมาส 1/66 มีกำไรตามคาด ส่วนวันนี้ติดตามงบของ TTB โดย TISCO มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 1,793 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน และ in line กับที่คาดไว้ ส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.13% จาก 2.09% ณ สิ้น ไตรมาสก่อน ส่วน TTB ประกาศงบวันนี้คาดมีกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 4.9%จากไตรมาสก่อน และ 26.3%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รวมทั้งจีนประกาศ GDP ไตรมาส 1/66 ขยายตัว 4.5% สูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส : เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ที่ขยายตัว 2.9% และมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4% ส่วนใหญ่เป็นการฟื้นตัวของการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ส่วนภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวช้า ทำให้การเติบโตของ ศก. จีนมีผลกับประเทศคู่ค้าและ ศก.โลกจำกัด
สุดท้ายประธานเฟดแอตแลนตาคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง จากนั้นจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย: เมื่อคืนนี้นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ออกมาให้ความเห็นโดยระบุว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวจากนั้นจะหยุดขึ้นเพื่อรอประเมินผลต่อ ศก. จากการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ค. นี้