คิดเป็น เห็นก่อน

พายุสงบ ฝุ่นจาง เห็นแสงสว่าง

ตลาดหุ้นไทยกลับมาเข้าสู่โหมดปกติ หลังตลาดหุ้นต่างประเทศเข้าสู่รอบของการฟื้นตัว หลังการปรับฐานรุนแรงผ่านไปแล้ว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย พร้อมจะกลับมาเดินหน้าต่อด้วยปัจจัยบวกที่มี  จากฤดูกาลประกาศผลประกอบการ และจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน แม้จะมีแรงขายอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องของต่างชาติ แต่ยังมีแรงรับซื้อเข้าสู้ตลอดด้วยสภาพคล่องภายในประเทศที่วันนี้มีอยู่สูงมากจริงๆครับ

GPSC หุ้นโรงไฟฟ้า ลูกเทพของปตท. ล่าสุดโชว์ตัวเลขผลประกอบการปี 60 มีกำไร 3,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% ถือว่าคุ้มค่าต่อการรอคอยนะครับ แถมตามมาด้วยจ่ายปันผล 0.80 บาท ถือเป็นหนึ่งในหุ้นพื้นฐาน ที่เน้นการลงทุนระยะกลางและยาว สมควรต้องมีไว้ในพอร์ตลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงช่วงตลาดผันผวนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผลงานในปี 61 นี้ ก็คาดว่าจะไม่ธรรมดาแน่ๆ มีให้ได้ลุ้นกันยาวๆ สมฉายา ลูกเทพ แน่นอน

และที่ไม่ธรรมดาอีกบริษัท อย่าง EA ที่วันนี้จัดเป็นหุ้นชั้นนำ ขวัญใจมหาชนไปแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะล่าสุด บริษัทฯ มีการเปิดเผยแผนงานที่จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้นในอนาคต ทำไปทำมาที่นักวิเคราะห์มอง 110 บาทก็มีลุ้นกันยาวๆ เช่นกัน

โดยภาพรวมในปี 61 EA จะรับรู้รายได้โครงการหาดกังหันขนาดกำลังผลิต 126 MW เต็มปี รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน ขนาดกำลังผลิต 260 MW ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปลายปีนี้ และส่งผลให้สิ้นปี 61 จะมีกำลังการผลิตรวม 664 MW

นอกจากนี้ในปี 61-62 จะถือเป็นสตอรี่สนับสนุนมูลค่าหุ้นที่ต้องจับตา หลังประกาศแผนการลงทุน 2.47 หมื่นล้านบาท ใน 5 ส่วนสำคัญ ส่วนที่ 1 ใช้งบ 2,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจไบโอดีเซล ที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นส่วนที่ 2 ใช้งบ 17,700 ล้านบาท ในก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน จ.ชัยภูมิ ขนาด 260 MW คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถรับรู้รายได้ทันทีในช่วงปลายปี 61

ส่วนที่ 3 ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานและผลิตแบตเตอรี่ เฟส 1 ขนาด 1 GWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่จะใช้ในโรงไฟฟ้า คาดสร้างเสร็จและเริ่มมีรายได้กลางปี 2562 และเฟส2 จะขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพิ่มเป็น 50 GWh ต่อไป ล่าสุดได้เริ่มทำการทดลองกับระบบย่อยที่ลำปางเพื่อเก็บข้อมูลแล้ว

สำหรับส่วนที่ 4 ใช้งบลงทุน  700 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ภายใต้เครื่องหมายการค้า  “EA Anywhere”  จะติดตั้งทั่วประเทศให้ครบ 1,000 สถานีภายในปีนี้ จากปัจจุบันมี 80 สถานี และส่วนที่ 5 วางประมาณราว 300 ล้านบาท สำหรับการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อการลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมที่บริษัทมีอยู่แล้ว และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต  เห็นแผนงานที่เปิดเผยออกมาแบบนี้ กับราคาเป้าหมาย 110 บาท ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ดูจากการตอบรับของนักลงทุนในขณะนี้ก็คงพอจะรับรู้ได้นะครับ

สุดท้ายแล้วหุ้นที่มีพื้นฐานดีแข็งแกร่ง มีความสามารถสร้างรายได้และผลกำไรในอนาคตที่ดี มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนที่จะนำพาบริษัทฯให้เติบโตก้าวหน้านั้นย่อมเป็นหุ้นที่สามารถสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับนักลงทุนโดยทั่วไปได้ ก็เพียงแต่ให้นักลงทุนที่สนใจคิดไตร่ตรองว่า จะลงทุนและอดทนถือรอคอยผลตอบแทนที่คาดหวังได้หรือไม่ก็เท่านั้นเองครับ