ห้องเม่าปีกเหล็ก

เศรษฐกิจหลังวิกฤติ ‘โควิด-19’ จะฟื้นตัวอย่างไร

โดย Durant
เผยแพร่ :
58 views

เศรษฐกิจหลังวิกฤติ ‘โควิด-19’ จะฟื้นตัวอย่างไร

แม้จะยังไม่มีทางรู้แน่ชัดว่า โลกจะเจอกับการแพร่ระบาดระลอกสองของ “โควิด-19”หรือไม่ แต่สถานการณ์ที่ค่อยๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีนและเอเชีย ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าผลกระทบของโควิด-19 แม้จะรุนแรงแต่จะอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น

เศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวหรือยัง

จากการวิเคราะห์โดย KBank Private Banking และพันธมิตร Lombard Odier ผู้ให้ด้านไพรเวทแบงก์ระดับสากล หากพิจารณาสถานการณ์ในจีนวันนี้ ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้แล้วกว่า 95%  สะท้อนจากตัวชี้วัดต่างๆ ที่ฟื้นตัวขึ้น เช่น ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การใช้พลังงานถ่านหินในภาคการผลิต การขนส่งสินค้าและเดินทาง หลังตกอยู่ในภาวะหยุดชะงักไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม

ล่าสุดการแพร่ระบาดในยุโรปและสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณที่ดี แต่ภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยยังคงออกนโยบายขนาดใหญ่อย่างทันท่วงทีกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2008 จึงคาดการณ์ได้ว่า หากควบคุมการระบาดได้ เศรษฐกิจทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ จะกลับมาฟื้นตัวได้เช่นเดียวกับจีน

แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะยังมีอยู่ รวมทั้งแรงกดดันจากปัญหาคนว่างงานและธุรกิจในกลุ่มการบริโภค เช่น ร้านอาหาร หรือค้าปลีก รวมทั้งกลุ่มการเดินทางขนส่ง ที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

ดังนั้น มาตรการทางการเงินและการคลังจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยในอีก 18 เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจใน 2 ด้าน ดังนี้

1. เม็ดเงินที่ธนาคารกลางอัดฉีดสู่ระบบและระดับดอกเบี้ยต่ำจะชดเชยสภาพคล่องที่หายไป และเมื่อสถานการณ์ปกติ ธนาคารกลางจะดึงสภาพคล่องส่วนเกินออกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

2. ภาครัฐเข้ามามีบทบาทในการใช้จ่ายรวมถึงให้เงินสนับสนุนภาคครัวเรือนและธุรกิจเพื่อประคองให้อยู่รอด หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และลดจำนวนคนตกงาน

จะเห็นได้ว่า มาตรการภาครัฐจะช่วยเศรษฐกิจโลกให้ออกจากภาวะถดถอย คาดว่าอย่างเร็วที่สุดภายในครึ่งหลังของปี 2020 และจะกลับสู่ปกติในช่วงปลายปี 2021

ธุรกิจใดคือผู้ชนะหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว

แม้นโยบายทางการเงินและการคลังขนาดใหญ่จากรัฐบาลทั่วโลกจะมีส่วนสำคัญในการประคับประคองธุรกิจต่างๆ แต่การเปลี่ยนแปลงด้านวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ได้ทำให้สังคมกลับมาตั้งคำถามกับความแข็งแกร่งของแต่ละธุรกิจ

KBank Private Banking มองว่า ธุรกิจที่จะอยู่รอดและจะกลับมาเติบโตได้ ต้องมีคุณสมบัติ 2 ข้อ ได้แก่ เป็นผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่เป็นที่ต้องการและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง หรือ Disruptor และเป็นธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน พร้อมปรับเปลี่ยนโครงสร้างและแนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งเปิดรับเทคโนโลยีเพื่อสร้าง S-Curve สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคและธุรกิจยุคใหม่

ดังนั้น หนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่สำคัญคือ “กองทุนรวม”ที่กระจายลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งกองทุนที่แนะนำ คือ K-HIT ซึ่งลงทุนในธีมธุรกิจ Megatrend เด่นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ธีมธุรกิจ Megatrend เด่นๆ ของโลก เช่น ธุรกิจ E-sports เกมส์กีฬาแห่งยุค โดยการแข่งขันบางรายการมีจำนวนผู้เข้าชมมากกว่าลีกชั้นนำของโลก ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์ตการเรียนรู้ออนไลน์ที่ขาดไม่ได้ในเวลานี้และจะสำคัญเพิ่มขึ้นในอนาคต ไปจนถึงธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งในปัจจุบันจำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อยลง นั่นหมายถึงความสำคัญของการใช้เวลาและดูแลสัตว์เลี้ยง

ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส และการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ก็ทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า ธุรกิจใน Megatrend ล้วนได้ประโยชน์แม้ในห้วงแห่งวิกฤติ และยังคงศักยภาพเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกได้ในอนาคต

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


Durant