ห้องเม่าปีกเหล็ก

“สามารถ เอวิเอชั่น” หรือ SAV เตรียมเข้าเทรด ในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้

โดย พายุ
เผยแพร่ :
139 views

“สามารถ เอวิเอชั่น” หรือ SAV

เตรียมเข้าเทรด ในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้

ชูบริษัทวิทยุการบินรายเดียวในตลาดหุ้น

.

กลุ่ม “สามารถ คอร์ปอเรชั่น” เผย SAV บริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานด้านการให้บริการวิทยุการบินแบบครบวงจรในประเทศกัมพูชา ให้บริการมากว่า 21 ปี พร้อมสัมปทานรายเดียวต่อเนื่อง 49 ปี ชูจุดแข็งอยู่ในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตสูง และจะเป็นหุ้นวิทยุการบินรายแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นหุ้นหนึ่งเดียวที่ได้ประโยชน์จากท่องเที่ยว และการลงทุนในอาเซียน

.

นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า “กลุ่มสามารถ ได้ทำการลงทุนในหลากหลายกลุ่มธุรกิจมามากกว่า 60 ปี โดยในส่วนของธุรกิจด้านการบิน ได้ลงทุนที่ประเทศกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545 ผ่าน บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยมีกลุ่มสามารถถือหุ้นในบริษัทฯ 100%

.

ทั้งนี้ SAV เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานด้านการให้บริการวิทยุการบินแบบครบวงจรในประเทศกัมพูชา โดยบริษัทได้ลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา พร้อมขยายระยะเวลาสัมปทานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ครอบคลุมระยะเวลานานถึง 49 ปี ทำให้ธุรกิจของ SAV มีเสถียรภาพอย่างสูง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

.

ด้านนายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม หรือต้นเดือนกันยายนนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะประกาศราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอในช่วงเดือนสิงหาคมนี้

.

โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 35.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น

.

ทั้งนี้เพื่อระดมทุนรองรับขยายธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ชูจุดแข็งศักยภาพธุรกิจแกร่ง ไร้คู่แข่ง ยืนหนึ่งด้านการเป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา พร้อมเติบโตรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูง และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ

.

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 บริษัทวางเป้าจะมีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 40% จากปี 2565 มีรายได้รวม 1,220 ล้านบาท โดยหลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิด 19 รวมทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการบินกัมพูชา กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คือ

.

1.สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ ในเฟสแรกสามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 10 ล้านคน

.

2. สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และมีแผนขยายให้สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 20 ล้านคน ในอนาคต

.

3.สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปีนี้

.

ทั้งนี้บริษัทวิจัยนานาชาติคาดว่าในปี 2567 จำนวนนักเดินทางเข้าออกกัมพูชาจะเพิ่มมากกว่าก่อนโควิด และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มเป็น 134,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก 100,000 เที่ยวบินที่คาดการณ์ในปี 2566 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีนซึ่งน่าจะกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปีหน้า โดยล่าสุดจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

.

สำหรับ SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจแกน คือให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่ง “SAV” ถือหุ้นใน CATS ในสัดส่วน 100% โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา

.

โดยรายได้หลักของ CATS มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท ได้แก่ 1.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic) 2.เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) และ 3.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight)

.

โดยปัจจุบัน “SAV” มีสนามบินในกัมพูชา 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง

.

ด้านจุดเด่นหลักของ SAV คือ 1.เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร เพียงรายเดียวในกัมพูชา 2.มีรายได้ประจำทั้งจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในประเทศกัมพูชา 3.มีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา 4.SAV มีระยะเวลาสัมปทานอีก 29 ปี และมีโอกาสต่ออายุสัมปทานได้อีก 5.ธุรกิจวิทยุการบิน ให้ผลตอบแทนสูง ไม่มีคู่แข่ง 6.การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาและอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง

.

ดังนั้นหาก SAV เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของกลุ่มสามารถ เนื่องจาก SAV เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง อยู่ในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตสูงและต่อเนื่อง อีกทั้งมีผลการดำเนินงานที่ดี ธุรกิจมีความมั่นคงสูง มีความสามารถในการทำกำไรสูง เป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีก โดย SAV จะเป็นหุ้นวิทยุการบินรายแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นหุ้นหนึ่งเดียวที่ได้ประโยชน์จากท่องเที่ยว และการลงทุนในอาเซียน

 

 


พายุ