ห้องเม่าปีกเหล็ก

ผลสำรวจกว่า 73% ของผู้เชี่ยวชาญมีความกังวลจะเกิดวิกฤติการเร็วๆ นี้

โดย ROE
เผยแพร่ :
63 views

ผลสำรวจกว่า 73% ของผู้เชี่ยวชาญมีความกังวลจะเกิดวิกฤติการเร็วๆ นี้

จากการสำรวจของ CNN Business พบว่า จำนวนนักเศรษฐศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่เห็นว่า สหรัฐอเมริการจะเกิดวิกฤติการทางการเงินในเร็วๆ นี้ หรือในภายปี 2020 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากการสำรวจครั้งล่าสุด

.

ผลสำรวจเห็นว่า กว่า 73% หรือ 3 ใน 4 ของผู้เชี่ยวชาญ ต่างคาดการณ์ว่า จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจภายในปีหรือสองปีนี้ อ้างอิงผลสำรวจจากผู้จัดการและนักวิเคราะห์ด้านการเงินในสหรัฐอเมริกาจำนวน 260 คน ซึ่งมากกว่าผลสำรวจเดิมเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่เห็นด้วยในเรื่องเดียวกันเพียง 53%

.

โดยประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญ และนักลงทุนต่างมีความกังวลนั่นคือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (Trade war), การแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือแม้กระทั่งการปิดหน่วยงานภาครัฐในสหรัฐ (Government Shutdown)

.

นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นของตลาดและนโยบายทางการเงินที่ยังไม่ชัดของธนาคารกลาง โดย 2 ใน 3 หรือกว่า 64% ของนักลงทุน มีความกังวลกับ ราคาหุ้น ณ ขณะนี้ ที่พุ่งขึ้นสูงมาก และอีกกว่าครึ่ง (48%) มีความกังวลเกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED

.

แม้ว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ แต่ดัชนีของตลาดหุ้นหลักๆ ยังคงลดหดตัวลงกว่า 10% จากช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นเฉลี่ยยังไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหากเทียบกับการซื้อเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา

.

Hady Farag เป็น Associate Director ของ Boston Consulting Group ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า เขาคิดว่า “นักลงทุนน่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้นตอนนี้ ลดลงจากที่พวกเขาเข้าเริ่มลงทุน”

.

ความหวังของนักลงทุนเริ่มมากขึ้น หลังจากที่ FED ประกาศที่จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังการปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า FED น่าจะหยุดการปรับอัตราดอกเบี้ยปีนี้ เพราะยังไม่มีสัญญาณที่สำคัญใดๆ บ่งบอกถึงการปรับเพิ่มขึ้นอัตราเงินเฟ้อ

.

ไม่ว่าเศรษฐกิจและตลาดจะเป็นอย่างไร ในช่วงระยะกลางนี้ นักลงทุนกว่า 82% ยังมีความรู้สึกว่า บริษัททั้งหลายในสหรัฐ จำเป็นที่จะต้องกังวลเป้าหมายในระยะสั้นให้น้อยลง และให้ความสำคัญกับการวางแผนระยะยาวให้มากยิ่งขึ้น

.

สุดท้าย Farag ได้กล่าวว่า นักลงทุนต้องการให้บริษัทลงทุนกับ Research and Development (R&D) และการใช้จ่ายเงินทุน (Capital Expenditures) มากยิ่งขึ้น แทนที่จะใช้จ่ายกับการ ควบรวมธุรกิจ (Merger) และกระตุ้นการจ่ายปันผลให้แก้ผู้ถือหุ้นอย่างเดียว

ที่มา: https://edition.cnn.com/2019


ROE